Tuesday, January 24, 2012

strawberry mousse cake

ช่วงนี้ทำเค้กเเละมีสตอเบอรี่เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะหน่อย เพราะว่าตอนนี้สตอเบอรี่มีเยอะมากเเละราคาไม่เเพง   อยากทานเค้กเย็น ๆ หวาน ๆ เนียน ๆ นุ่ม ๆ ก็ต้องเป็นมูสเค้กเลยค่ะ  ได้รับเเรงบันดาลใจมาจากเเม่ปูเเห่งบล๊อกเเกงค์ เเต่สุดท้ายเเหม่มก็เอามาปรับสูตรเองอีกจนได้


ตัวเค้กวันนี้ที่ทำเป็นเค้กนมสด สูตรเดียวกับที่เคยทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ค่ะ  ทีนี้เรามาทำเนื้อมูส กับซอสสตอเบอรี่กันดีกว่า


เนื้อสตอเบอรี่ของที่ญี่ปุ่นหวานอร่อยมากอยู่เเล้ว  ต้องพยายามอย่าเติมน้ำตาลเยอะเพราะเดี๋ยวจะหวานเกินน่ะค่ะ  เริ่มต้นจากทำซอสสตอเบอรี่ก่อน 


ซอสสตอเบอรี่
สตอเบอรี่............................ 350 g
น้ำตาลทรายขาว................... 80 g
น้ำส้ม................................... 1/2 ถ้วย


วิธีทำซอสสตอเบอรี่
นำสตอเบอรี่หั่นผ่าครึ่ง  น้ำตาลทราย  น้ำส้ม ต้มรวมกัน (ไฟกลาง) ต้มจนน้ำสตอเบอรี่ออกมาเป็นสีเเดงเข้มเลยนะคะ จากนั้นกรองเอาน้ำสตอเบอรี่พักเอาไว้ก่อน  (ช้อนฟองออกด้วยก็ดีค่ะ เพราะเวลาทำเป็นเยลลี่เเล้วจะได้ไม่มีฟองอากาศ)




 
ได้น้ำสตอเบอรี่ประมาณถ้วยกว่าเลย

ขั้นตอนต่อไปทำเนื้อมูสค่ะ


ตีวิปครีม ขั้นตอนนี้เเหม่มเติมน้ำตาลลงไปประมาณหนึ่งในสี่ถ้วยตวงด้วย (กลัวไม่หวาน)  ตีจนพอเนียนนะคะ ไม่ต้องตีจนตั้งยอด เเม่ปูเเนะนำว่าไม่อย่างนั้นเนื้อมูสจะไม่เนียนค่ะ 


เตรียมเจลาตินหนึ่งช้อนโต๊ะ ละลายกะน้ำเย็นสามช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้จนเจลาตินพอง เสร็จเเล้วก็เอาไปละลายบนหม้อน้ำร้อนอีกที (ห้ามละลายโดยตรงนะคะ)  ทิ้งเจลาตินให้เย็น


จากนั้นนำสตอเบอรี่สดประมาณ 400 g ไปบดในเครื่องปั่นให้ละเอียด   นำสตอเบอรี่ที่บดละเอียดเเล้วลงไปต้มในหม้อพออุ่น ๆ เเล้วใส่เจลาตินที่เราเตรียมเอาไว้ลงไปผสมค่ะ   ทิ้งให้ส่วนผสมเย็น  เเล้วเอามาผสมกับวิปครีมที่ตีเอาไว้ตอนต้น




................................................................................................


ทีนี้มาถึงขั้นตอนประกอบค่ะ



 


ตอนอบเค้กตัวเค้กเเหม่มใช้พิมพ์ขนาดสิบห้าเซนนะคะ ส่วนตอนประกอบใช้สปริงฟอร์มถอดก้นได้ขนาดสิบแปดเซน  สไลด์เค้กเป็นสองชั้น วางชั้นเเรกลงไปก่อน จากนั้นโปะมูสทับลงไปค่ะ  วางเค้กชั้นที่สองเเล้วโปะมูสลงไปเกลี่ยให้ (พยายาม) เรียบ  เหลือพื้นที่ด้านบนก่อนถึงขอบพิมพ์เอาไว้หน่อยรอราดซอสสตอเบอรี่  เเหม่มเอาเข้าช่องฟรีซเลย มิเสียเเรงที่ซื้อตู้เย็นมีช่องฟรีซใหญ่ 




ทีนี่มาจัดการกับซอสสตอเบอรี่กันต่อ  เตรียมเจลาตินที่สัดส่วนเดิม วิธีเดิมรอให้เย็น  นำซอสสตอเบอรี่ขึ้นตั้งไฟพออุ่น ผสมกับเจลาตินที่เตรียมไว้  รอให้ซอสสตอเบอรี่เย็นก่อนราดบนหน้ามูสนะคะ
จัดการเอาเค้กออกจากช่องฟรีซ เเหม่มทิ้งเอาไว้ประมาณสองชั่วโมง พอหน้าตึง ๆ ก็ราดซอสเลยค่ะ





เป็นเค้กที่ทำนานสุดเลยค่ะ กว่าจะเสร็จก็ปาไปห้าชั่วโมงได้

No comments:

Post a Comment