Monday, December 24, 2012

Brownie cupcake for Christmas

วันนี้อากาศเเจ่มใสเเต่หนาวน่าดูค่ะ อากาศต่ำสุดของวันนี้ประมาณสององศา
ถ้าพูดถึงคริสมาสก็ต้องนึกถึงเค้กชอคโกเเลต  เเละถ้านึกถึงเค้กที่ทำไม่ยากเเละอร่อยก็คงไม่พ้นบราวนี่ สำหรับสูตรที่เเหม่มเลือกมาทำวันนี้ก็เป็นสูตรดังของเเม่ปู ณ พันทิพค่ะ

ส่วนผสม

แป้งอเนกประสงค์ 1  ถ้วยตวง
ผงโกโก้  1/4 ถ้วยตวง
ผงฟู 2  ชช.
เกลือ 1/4 ชช.
Dark chocolate 340 กรัม
น้ำตาลทราย 300 กรัม
เนยสด 170 กรัม
ไข่ไก่ 4 ฟอง
กาเเฟผง 2  ชต.
วานิลลา 1 ชต.

วิธีทำ

ร่อนแป้ง ผสมกับโกโก้ ผงฟูเเละเกลือเข้าด้วยกัน
ตุ๋นชอคโกเเลต เนย เเละน้ำตาล คนจนละลาย พักเอาไว้
ผสมไข่ไก่ กาเเฟ วานิลลา ลงในอ่าง ตีพอเป็นฟอง
นำส่วนผสมของไข่ ใส่ลงในส่วนของชอคโกเเลต คนผสมให้เข้ากัน
เติมส่วนผสมของเเป้ง เเล้วคนให้เข้ากัน
อบที่ 180 C ประมาณ 20-25 นาที



Photobucket

อบออกมาเเล้วหน้าเเตกดีค่ะ สำหรับสูตรนี้เเหม่มว่าหวานไปหน่อย คราวหน้าทำคงต้องลดน้ำตาลลงนิดหน่อย เเต่ถ้าทานคู่กับกาเเฟขม ๆ ก็คงเข้ากันพอดี  

Merry X Mas

Friday, December 21, 2012

blueberry buttermilk muffin

ช่วงนี้เริ่มได้หายใจหายคอหน่อย เลยต้องเริ่มเปิดโรงงานปัดฝุ่นเตาอบซะหน่อย ประเดิมอบเค้กกล้วยหอมสูตรยอดฮิต ก่อนหน้านี้ไปไม่นาน ขนมอบชิ้นต่อมาที่เลือกมาวอร์มต่อซะหน่อยก็คือ บลูเบอรี่มัฟฟิน สืบเนื่องจากได้บลูเบอรี่เเช่เเข็งเป็นของกำนัลมาจากเพื่อนโย (เเต่พอทำเสร็จเพื่อนโยไม่ได้ชิมซักชิ้น ฮ่า ฮ่า)
สำหรับสูตรบลูเบอรี่มัฟฟินวันนี้ก็ง่ายมาก ไม่ยุ่งยากซับซ้อน

ส่วนผสม

แป้งสาลีเอนกประสงค์ 400 g
น้ำตาลทรายเเดง 175 g
ผงฟู 1 tbsp
ผิวมะนาวขูดหนึ่งลูก
เกลือ 1/2 tsp
บัตเตอร์มิลท์ 284 ml
ไข่ไก่ (ตีผสมพอเข้ากัน) 2 ฟอง
บัตเตอร์ (ชั่งก่อนละลาย) 85 g
บลูเบอรี่เเช่เเข็ง 250 g  (ไม่ต้องละลายค่ะ)

วิธีทำ

ส่วนที่หนึ่ง ผสมส่วนผสมเเห้งเข้าด้วยกัน เเป้งสาลี น้ำตาลทรายเเดง ผงฟู เกลือ ผิวมะนาวขูด
ส่วนที่สอง ผสมส่วนของเหลวเข้าด้วยกัน บัตเตอร์มิลท์ ไข่ไก่ บัตเตอร์
ทำหลุมตรงกลางส่วนผสมเเห้ง เทส่วนของเหลวลงตรงกลาง ผสมพอเข้ากัน (อย่าผสมนานค่ะ) จากนั้นผสมบลูเบอรี่ลงไป ผสมเเบบเบามือ
ตักส่วนผสมใส่ถ้วยอบ  อบที่ 180 C ประมาณ 25 นาที

สูตรนี้มีโภขนาการด้วย 253 kcalories per muffin, protein 5g, carbohydrate 44g, fat 7g, saturated fat 4g, fiber 1g, suger 15g, salt 0.91g.



Blueberry muffin

Saturday, October 13, 2012

o'bento ออส่วนหอยนางรม

ช่วงนี้หอยนางรมเริ่มเข้ามามีอิทธิพลตามซุปเปอร์มากขึ้น  เเต่ละที่ก็กระหน่ำลดราคาเเข่งกันเเบบไม่เกรงกลัวคลอเรสเตอรอลต่อผู้บริโภค  งานนี้เลยสนองความต้องการของตัวเองซะหน่อย
เมนูนี้สำหรับผู้ต้องการเพิ่มไขมันในเส้นเลือดนะคะ  ออส่วนหอยนางรม

สูตรของคุณหมึกเเดง  สูตรนี้เเป้งจะไม่กรอบใช้เเต่เเป้งมันอย่างเดียวค่ะ
- หอยนางรมลวก 1 ถ้วยตวง
- แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง- น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ- ไข่ไก่ 2 ฟอง- เกลือพอประมาณ
- พริกไทยป่นพอประมาณ
- ต้นหอมซอยพอประมาณ
- ผักชีซอยพอประมาณ
- ถั่วงอกพอประมาณ
- ซอสพริก



ลวกหอยนางรมให้พอสุกก่อนนะคะ  จากนั้นก็หมักเข้ากับเเป้งมันที่ละลายน้ำเเล้ว 
เติมพริกไทย  เกลือ  ต้นหอม  ตีไข่พอเข้ากัน

ผัดถั่วงอกกับน้ำมันเล็กน้อย วางพักไว้บนจาน

นำส่วนผสมเเป้งกับหอยนางรมลงผัดในน้ำมันร้อน  ผัดเร็ว ๆ นะคะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเเป้งเป็นก้อน


ราดไข่ลงในส่วนผสมในกะทะ  ผัดเข้ากันจนสุก


โรยหน้าด้วยผักชี ทานพร้อมกับซอสพริกค่ะ

ปัจฉิมลิขิต
ผักชี ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากพี่คนไทย  พี่เค้าปลูกผักชีเองค่ะ  ซาบซึ้งมาก

o'bento หอยทอด

เมนูนี้ปิ๊งไอเดียจากการเดินสำรวจตลาดในซุปเปอร์มาร์เก็ต  เห็นหอยเเมงภู่  ก็เลยบังเกิดเมนูนี้ค่ะ
นางเอกของเมนูนี้  ต้องผ่านการฆ่าเชื้อ เอาไปลวกก่อนนะ


ส่วนผสมหลัก ๆ
แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มีก็ผสมผงฟูไปในน้ำนิดหน่อยค่ะ)
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ถั่วงอก  ต้นหอมซอย
เครื่องปรุงรส น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น


วิธีทำ
ผสมส่วนของแป้งกับน้ำ  และน้ำปูนใส คนให้เข้ากัน 
เวลาทอดต้องใช้กะทะแบนเเละไฟแรง


ตั้งน้ำมันให้ร้อน  เทส่วนผสมแป้งลงไป  ตามด้วยหอยแมงภู่ที่ลวกแล้ว 


ทอดจนแป้งสุก (บางคนชอบกรอบก็ทอดจนกรอบเลยค่ะ)  ต่อยไข่ลงไปคลุกกับแป้ง  ทอดพอเหลือง  ปรุงรสตามใจชอบ  เสร็จเเล้วก็เกลี่ยไว้ข้างกะทะ  ผัดถั่วงอกตามค่ะ

เสร็จเเล้วก็โรยต้นหอมซอย  เสร็จเรียบร้อยเเล้ว

ลองทำอีกหนเลยลองเปลี่ยนเป็นหอยนางรมบ้างก็เข้าท่าเหมือนกันนะเนี่ย


Photobucket
Photobucket

Monday, June 4, 2012

ซาลาเปาไส้หมูสับ

อยู่ญี่ปุ่นก็อยากกินอะไรเเบบไทย ๆ ส่วนตอนอยู่ไทยก็สรรหาอาหารญี่ปุ่น ดูเเล้วชีวิตเราเนี่ยไม่มีความพอดีเลยเนอะ ฮ่า ฮ่า จริง ๆ เมนูนี้จะบอกว่าเป็นไทยเเท้ก็ไม่เชิง ต้องบอกว่าเมนูลูกผสมไทยจีน ถ้าถามว่าหาซาลาเปาที่นี่ทานได้ไหม ได้ค่ะ เเต่ว่าอย่าคาดหวังว่ารสชาติจะเหมือนกับที่ไทย จึงเป็นเหตุที่เเหม่มต้องสรรหาสูตรซาลาเปามาทำทานเอง สูตรนี้เริ่มเเรกได้มาจากเพื่อนปอ ถึงขั้นต้องกริ๊งกร๊างไปที่ไทยโดยตรง เพื่อนปอบอกว่าสูตรนี้เป็นซาลาเปาทำขายเชียวนะยะ ยังไม่ได้ลองทำให้เเหม่มมาลองทำก่อน สูตรนี้คอนเฟิร์มว่าอร่อยเพราะว่าทำหม่ำมาหลายครั้งเเล้ว เปลี่ยนไส้ไปตามความอยากของคนทำ ตั้งเเต่ไส้ฟักทอง ยันไส้หมู สำหรับวันนี้เป็นซาลาเปาไส้หมูสับค่ะ อ่อ ลืมไปว่าจริง ๆ สูตรนี้เป็นสูตรยอกฮิตเหมือนกัน สูตรต้นฉบับของ ม.เกษตรค่ะ  


Uploaded from the Photobucket iPhone App 



สูตรซาลาเปายีสต์ ปั้นได้ประมาณ 30 ลูก เเต่เเหม่มปั้นได้เเค่ยี่สิบกว่าลูกเพราะว่าเน้นใหญ่ ๆ เอาไว้ก่อน เเต่ปั้นตามสูตรล่ะคะดีล่ะ



ไส้หมูสับ


 
-
เนื้อหมูสับติดมัน 300 กรัม
-
มันแกวขูดเส้น 225 กรัม (บีบน้ำออกให้หมด)
-
น้ำตาลทราย 20 กรัม
-
เกลือ 1/2 ช้อนชา
-
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
-
พริกไท 2 ช้อนชา
-
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
-
ต้นหอมซอย 2 ต้น
-
เห็ดหอมหั่นชิ้นเล็ก 2 ดอก หรือมากกว่า



 
เเหม่มไม่สามารถหามันเเกวได้ ไส้เลยไม่มีมันเเกว  สำหรับวิธีทำไส้ก็ง่ายมากเลยค่ะ  เอาส่วนผสมทั้งหมดปั่นผสม  หรือคลุกด้วยมือก็ได้  ยกเว้นต้นหอมกับเห็ดหอม ที่เอามาคลุกทีหลังกันเละ  ผสมส่วนผสมเสร็จก็เเช่ตู้เย็นเอาไว้ ก่อนนำออกมาปั้น


ส่วนผสมเเป้งจะเเบ่งออกเป็นสองส่วน


ส่วนเเรกตัวสปันจ์
 
-
แป้งเค้กบัวแดง 375 กรัม หรือ 4 ถ้วยตวง
-
ยีสต์ 10 กรัม หรือ 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือ 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำ 200 กรัม หรือ 1 ถ้วยตวง



ร่อนเเป้งเค้กพักเอาไว้ค่ะ (ถ้าไม่มีเเป้งเค้กก็ใช้เเป้งสาลีอเนกประสงค์ก็ได้ค่ะ)  จากนั้นผสมยีสต์ลงไปในเเป้ง คนให้เข้ากัน  

ละลายน้ำตาลทรายกับน้ำเเล้วเทลงไปในเเป้ง  นวดให้เข้ากัน  พักเอาไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมง  (วิธีสังเกตุเเป้งจะขึ้นประมาณสองสามเท่า เเล้วเเหวกเนื้อเเป้งดูจะเห็นเป็นใย ๆ) เอาพลาสติกคลุมเอาไว้เพื่อกันหน้าเเป้งเเห้งค่ะ



ส่วนที่สองโด

-
แป้งเค้ก 150 กรัม หรือ 1 ถ้วยตวง + 2/3 ถ้วยตวง
-
ผงฟู 5 กรัม หรือ 2 ช้อนชา
-
น้ำ 40 กรัม หรือ 1/4 ถ้วงตวง
-
น้ำตาลทราย 100 กรัม หรือ 2/3 ถ้วยตวง
-
เกลือ 4 กรัม หรือ 1 ช้อนชา
-
น้ำมันพืช 50 กรัม หรือ 4 ช้อนโต๊ะ

 

ร่อนเเป้งเเละผงฟูพักเอาไว้  ทำบ่อตรงกลาง



ผสมน้ำ  น้ำตาลทราย  เกลือ ลงในเเป้ง  จากนั้นนำส่วนของสปันจ์ที่หมักได้ที่ลงไปผสมในส่วนของเเป้ง  ทะยอยใส่น้ำมันพืชเเล้วนวดต่อจนส่วนผสมเนียน
ตัดเป็นก้อนประมาณ 30 กรัม ใส่ไส้ เเล้วจับจีบค่ะ ส่วนเเหม่มไม่สามารถจับจีบได้ก็ปั้นกลม ๆ ละกัน 
พักซาลาเปาที่ใส่ไส้เเล้วให้ขึ้นประมาณสองเท่า ก่อนนำไปนึ่ง (ประมาณ 30 นาที) 
จากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 12 นาที






 


Uploaded from the Photobucket iPhone App

คิดถึงซึ้งที่ไทย  ใหญ่ได้ใจ 


Uploaded from the Photobucket iPhone App

Thursday, May 31, 2012

Chocolate chiffon and banana custard cream cake

เเรงบันดาลใจในการทำเค้กก้อนนี้เกิดจากความเครียด ฮ่า ฮ่า ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ เกิดจากความเครียดจริง ๆ ส่งผลให้นอนไม่หลับต้องลุกมาทำอะไรซักอย่างให้เหนื่อยจะได้ง่วงนอน คิดไปสามสี่ตลบว่าจะทำอะไรดี  ทำเค้กดีกว่าเเล้วต้องทำเค้กก้อนที่ต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างในก้อนเดียวกัน เค้กก้อนนี้จึงบังเกิดขึ้นมา  กว่าจะทำเค้กก้อนนี้เสร็จก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่ง  ได้นอนยาวเเถมตื่นสายอย่างสมใจจริง ๆ


เนื้อเค้กชอคโกเเลตที่เลือกมาทำวันนี้เป็นเค้กชิฟฟ่อน  ที่น่าสนใจเพราะเนื้อเค้กสูตรนี้เติมนมผงลงไปด้วย  เค้กชอคโกเเลตนิ่ม ๆ ทานคู่กับคัสตาร์ดกล้วย  ปิดท้ายด้วยวิปปิ้งครีมจากชอคโกเเลตนม  เเค่คิดมันก็น่าจะอร่อยเเล้วใช่ไหม  มาเริ่มลงมือทำกันดีกว่า



Photobucket  

สูตรชอคโกเเลตชิฟฟ่อนเค้กสำหรับพิมพ์ 18 cm


แป้งเค้ก..........................100 g
เบคกิ้งโซดา................... 1/4 ช้อนชา
ผงโกโก้......................... 20 กรัม
นมผง (หางนม)................ 8 กรัม
น้ำตาลทราย (1)............. 120 กรัม
เกลือ............................. 1/4 ช้อนชา
น้ำ................................ 100 กรัม
น้ำมันพืช........................ 50 กรัม
ไข่แดง........................... 50 กรัม
ไข่ขาว.......................... 100 กรัม
น้ำตาลทราย (2).............. 66 กรัม
ครีมออฟทาร์ทาร์............. 1/4 ช้อนชา
กลิ่นวานิลลา..................... 1 ช้อนชา




มาเริ่มทำเค้กชิฟฟ่อนชอคโกเเลตกันก่อนเลยดีกว่า  ร่อนส่วนผสมของแป้ง เบคกิ้งโซด้า  ผงโกโก้  เกลือ  เเละนมผงให้เข้ากันในอ่างผสม  จากนั้นเติมน้ำตาลทราย (1)  คนส่วนผสมให้เข้ากัน  สำหรับผงโกโก้ที่เเหม่มใช้วันนี้เป็นของยี่ห้อโมรินากะ  ปกติจะใช้เฮอร์ชี่ด้วย  จากผลการทำเค้กชอคโกเเลตที่ผ่าน ๆ มา โดยส่วนตัวเเหม่มคิดว่ายี่ห้อโมรินากะอร่อยกว่าเพราะว่าเฮอร์ชี่จะหวานเกิน  เเต่ก็เเล้วเเต่คนชอบนะคะ



Photobucket


ผสมส่วนของเหลวได้เเก่น้ำมันพืช  ไข่เเดง  กลิ่นวานิลลา  น้ำ คนส่วนผสมให้เข้ากัน  จากนั้นนำมาผสมในส่วนของเเห้ง (ส่วนของแป้ง)  โดยทำส่วนของแป้งให้เป็นหลุมตรงกลาง  เเล้วเติมส่วนของเหลว  จากนั้นผสมให้พอเข้ากัน  ไม่ต้องคนนานนะคะ  พักเอาไว้ (ส่วนผสมที่หนึ่ง)


Photobucket



ตีไข่ขาวจนเริ่มเป็นฟองหยาบ  จึงเติมครีมออฟทาร์ทาร์  เเละค่อย ๆ ทะยอยเติมน้ำตาลทรายตีต่อจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน (ส่วนผสมที่สอง)  อย่าตีไข่ขาวนานเกินเพราะว่าเนื้อเค้กจะเเข็ง

ไปเดินเจอครีมออฟทาร์ทาร์เวอร์ชั่นญี่ปุ่นด้วย


Photobucket


Photobucket


จากนั้นก็ผสมส่วนของไข่ขาว (ส่วนที่สอง) ลงไปผสมในส่วนที่หนึ่ง  ค่อย ๆ เเบ่งผสมอย่างเบามือ  เมื่อผสมเขากันดีเเล้วเทใส่พิมพ์ที่รองก้นด้วยกระดาษไข นำไปอบที่ 180 องศาเซลเซียสประมาณ 30  นาที  เชคสุกโดยดูการสปริงตัวของเนื้อเค้ก  ถ้าเเตะเเล้วเค้กสปริงกลับเเปลว่าสุกเเล้วค่ะ


สูตรคัสตาร์ดกล้วย


 
ไข่แดง............................. 2 ฟอง
น้ำตาลทราย..................... 4 ชต.
วิปปิ้งครีม........................ 50 มล.
นมสด........................... 150 มล.
กล้วยหอมบดละเอียด 2 ลูก (เอาเนื้อตรงกลางที่มีส่วนของเม็ดทิ้งไป)
กลิ่นกล้วยหอม................ 1/2 ชช.
กลิ่นวนิลา...................... 1/2 ชช.
แป้งข้าวโพด................... 20 กรัม
เนยสดเค็ม...................... 20 กรัม








 Photobucket 


วิธีการทำคัสตาร์ดกล้วย  บดหรือว่าปั่นกล้วยหอมให้ละเอียด เเหม่มบดค่ะโดยใช้ที่บดซื้อจากร้านร้อยเยนใช้ได้คุ้มค่าเกินราคามากมาย   จากนั้นนำส่วนผสมทุกอย่างผสมรวมกันในหม้อยกเว้นเนยสด  ตั้งไฟปานกลางจนส่วนผสมเริ่มข้น   จากนั้นยกออกจากเตาเติมเนยสดเค็ม  คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน  เเล้วก็ตั้งทิ้งเอาไว้ให้เย็น  ก่อนนำไปเเต่งเค้กค่ะ




วิปปิ้งครีมชอคโกเเลตนม 





วิปปิ้งครีม.................300 มล.
ชอคโกเเลตนม.............80 กรัม





หั่นชอคโกเเลตนมให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนนำไปละลายโดยอุ่นเหนืออ่างน้ำี้ร้อน (ไม่ละลายโดยตรงกับไฟนะคะ)  รอให้ชอคโกเเลตอุ่น ๆ นิ้วเเตะจิ้มได้ก่อนนำมาผสมกับวิปปิ้งครีมที่ตีเรียบร้อยเเล้ว  






สำหรับการเเต่งตัวเค้ก  เเบ่งเค้กออกเป็นสองส่วนเเล้วปาดวิปปิ้งครีมที่เค้กส่วนฐาน  โปะด้วยคัสตาร์ดกล้วยเเล้ววางทับด้วยชอคโกเเลตเค้กส่วนบน  จากนั้นก็เเต่งเค้กตามใจชอบเลยค่ะ




Photobucket





Photobucket

Monday, May 21, 2012

สปันจ์เค้กชาเขียวกับถั่วเเดง Matcha cake with red bean paste

สืบเนื่องจากสปันจ์ก้อนที่เเล้วใหญ่ได้ใจมาก  ถึงขั้นเด็ก ๆ ในเเลบอุทานว่าเค้กก้อนนี้ใหญ่สะใจพลพรรคจริง เพราะว่าน้อง ๆ ในเเลบเยอะมาก  เวลา่ทำเค้กทีก็ต้องทำก้อนใหญ่ ๆ ไม่อย่างนั้นไม่ทั่วถึง  เเละเป็นเด็กผู้ชายซะส่วนมาก ทุกอย่างเลยต้องจัดหนัก (เด็กผู้ชายญี่ปุ่นนี้กินจุจริง ๆ)


เมื่ออาทิตย์ที่เเล้วไหว้วานให้น้องคนนึงในเเลบสอนงาน  น้องก็ทำหน้าที่ได้ดีจริง ๆ เลยทำสัญญากะน้องเอาไว้ว่า พี่จะทำเค้กมาตอบเเทนความดีของน้องนะ  เด็กในเเลบคนอื่น ๆ พอได้ยินทำตาลุกวาว อารมณ์ประหนึ่งว่าชั้นจะได้หม่ำเค้กฟรีอีกเเล้ว (โว้ย)


สูตรเค้กวันนี้ก็เลยขอยึดสปันจ์เค้กสูตรที่เเล้วเเต่เพิ่มชาเขียวลงไปเเทนที่  สำหรับถั่วเเดงก็ไม่ต้องไปกวนเองนะคะ เพราะถั่วเเดงญี่ปุ่นเนี่ยต้องต้มนานมาก  เเต่ถ้าใครอยากกวนเองก็ใช้เวลานิดนึงค่ะ ถั่วเเดงกวนวันนี้เลยไปหาซื้อเอาจากซุปเปอร์มาเกตเเถวบ้านถุงใหญ่ได้ใจดีค่ะ


สูตรสปันจ์เค้กสำหรับพิมพ์ 18 cm

แป้งเค้ก...............................82 g
ชาเขียว................................8 g
เเป้งข้าวโพด.......................10 g
ผงฟู.....................................1 g
ไข่ไก่...................................3 ฟอง
น้ำตาลทราย........................100 g
เอสพี...................................10 g
น้ำมันพืช.............................50 g
วานิลลา...............................2 ช้อนชา

สำหรับวิธีทำก็ตามลิงค์นี้เลยค่ะ http://mammedium.blogspot.jp/2012/05/blog-post.html


ส่วนวิปปิ้งครีม

วิปปิ้งครีม................340 มิลลิลิตร
น้ำตาล....................1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ชาเขียว....................1 ช้อนโต๊ะ

ผสมน้ำตาล ชาเขียวลงในวิปปิ้งครีม  ตีจนตั้งยอดก่อนนำมาปาดเค้กนะคะ





ตัวเค้กวันนี้เนื้อนุ่มเเละใหญ่ได้ใจเหมือนเดิม



จัดการเเบ่งเค้กเป็นสองส่วน  ปาดวิปปิ้งครีม ตามด้วยถั่วเเดงกวนค่ะ








ตกเเต่งหน้าตาเค้กวันนี้ดูเรียบร้อยดีเเหะ ฮ่า ฮ่า โรงผงชาเขียวด้านบนนิดหน่อยเป็นอันเสร็จ  
ปอลิง ไม่ได้ตัดเค้กให้ดูนะคะ เพราะว่าต้องเเบกเอาไปให้เด็ก ๆ หม่ำ

Wednesday, May 2, 2012

สปันจ์เค้กกับสตอเบอรี่

เกริ่นเอาไว้ว่าไปค้นพบสูตรสปันจ์เค้กที่ทำง่ายเเล้วก็ไม่ยุบมาค่ะ เพราะว่าทำเค้กสปันจ์ทีไรปวดใจทุกทีกับปัญหาก้นเป็นไตหรือไม่ก็เค้กยุบ  เเต่สูตรนี้ทำไม่ยาก  คอนเฟิร์มไม่ยุบไม่เป็นไต  ได้เค้กก้อนโตเนื้อนุ่ม ๆ เค้กก้อนนี้เอาไปให้น้อง ๆ ญี่ปุ่นทานถึงกับอุทานกันว่า  เค้กก้อนนี้ใหญ่จริง ฮ่า ฮ่า

เเต่สุดท้ายก็ยังปันใจไปให้เค้กสปองค์อยู่ดี  ของเเบบนี้เเล้วเเต่คนชอบเนอะ  สำหรับหน้าเค้กวันนี้ก็ทำง่าย ๆ ปาดวิปปิ้งครีมเเล้วก็เเต่งหน้าด้วยสตอเบอรี่สด



Photobucket



สูตรสปันจ์เค้กสำหรับพิมพ์ 18 cm

แป้งเค้ก...............................90 g
เเป้งข้าวโพด.......................10 g
ผงฟู.....................................1 g
ไข่ไก่...................................3 ฟอง
น้ำตาลทราย........................100 g
เอสพี...................................10 g
น้ำมันพืช.............................50 g
วานิลลา...............................2 ช้อนชา





ตอกไข่ทั้งสามฟอง ผสมแป้ง น้ำตาลทรายเเละกลิ่นวานิลลา  ตีต่ำพอเข้ากัน  คอยปาดอ่างด้านข้างด้วยค่ะ   พอส่วนผสมเริ่มเข้ากันตีด้วยสปีดสูงต่อด้วยความเร็วประมาณสองนาที



Photobucket



พอครบสองนาทีเเล้วก็ปาดเอสพีเข้าที่หัวตะกร้อ  ตีด้วยความเร็วสูงอีกสองนาที  ปรับสปีดต่ำค่อย ๆ เทน้ำมันพืช  ตีต่อจนเข้ากัน  เเล้วเปลี่ยนมาตีต่อที่สปีดสูงอีกหนึ่งนาที  พอเข้ากันดีเเล้วตีตัดอากาศด้วยสปีดต่ำประมาณหนึ่งนาที



Photobucket


เตรียมพิมพ์โดยตัดกระดาษรองพิมพ์ที่ก้นไม่ต้องทาอะไรค่ะ  ก่อนอบเคาะพิมพ์ประมาณสองสามรอบเพื่อไล่อากาศ  อบที่อุณหภูมิประมาณ  180 องศาเซลเซียส 45 นาที


อบเสร็จปริมาณเค้กเยอะดีนะเนี่ย  เอามีดกรีดด้านข้างเพื่อเอาตัวเค้กออกจากพิมพ์  พักไว้ให้เย็นเเล้วค่อยเเต่งหน้าค่ะ


Photobucket




Photobucket


เนื้อเค้กนุ่ม ๆ ดีค่ะ  จัดการเเต่งหน้าเค้กปาดวิปปิ้งครีมเเล้วก็ตกเเต่งตามใจชอบเลยค่ะ



Photobucket

Sunday, April 8, 2012

melon shortcake

เมื่อวันจันทร์ที่เเล้วไปในตัวเมืองฮิโรชิม่ามาค่ะ ได้เมลอนราคาถูกลูกกำลังเหมาะมือมาหนึ่งลูก กำลังหอมเลยเชียว  เเถมราคาก็ถูกจนน่าตกใจ ถ้าใครเคยทานเมล่อนของญี่ปุ่นจะรู้ว่ารสชาติหอมหวานมาก ๆ  เลยสอยมาซะกะว่าจะเอามาทำเมล่อนช็อตเค้กซะหน่อย


สำหรับสูตรเค้กวันนี้เป็นสูตรช็อตเค้กสไตล์ญี่ปุ่นเเต่ที่พิเศษคือสูตรนี้เพิ่มความหอมหวานของน้ำผึ้งลงไปด้วย  สูตรเค้กวันนี้มาจากหนังสือชื่อ สปองค์เค้ก ของคุณฟุคุดะ จุนโกะ  เค้กก้อนนี้เป็นเบสิคสปองค์เค้ก  ใครอยากจะตกเเต่งเค้กเเบบอื่นก็ไม่มีปัญหาค่ะ



Uploaded from the Photobucket iPhone App



สูตรสำหรับตัวเค้ก 15 cm

ไข่ไก่.....................2 ฟอง
แป้งสาลี................55 กรัม
น้ำฝึ้ง.....................2 ช้อนชา
นมสด....................2 ช้อนชา
น้ำตาล...................50 กรัม
เนยสดจืด...............20 กรัม

ส่วนวิปปิ้งครีม

วิปปิ้งครีม................340 มิลลิลิตร
น้ำตาล....................1 1/2 ช้อนโต๊ะ



ไซรัปสำหรับทาตัวเค้ก

น้ำตาลทรายป่น........20 กรัม
น้ำ.............................40 กรัม
เหล้าเชอรี่.................5 กรัม


ขั้นตอนเเรกผสมส่วนผสมไข่ไก่  น้ำผึ้งเเละน้ำตาลทรายใส่ชามสเเตนเลส  ตีส่วนผสมให้พอเข้ากัน


เตรียมน้ำอุ่นประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส  ลงในชามสเเตนเลสใบใหญ่  นำชามสเเตนเลสที่มีส่วนผสมไข่ที่ตีเข้ากันดีมาวางบนอ่างน้ำอุ่น  ตีต่อด้วยความเร็วสูง ตีจนส่วนผสมของไข่มีอุณหภูมิประมาณ 36-38 องศาเซลเซียส  จึงยกลงจากชามน้ำอุ่นเเล้วตีต่อด้วยความเร็วสูงจนส่วนผสมได้ริบบ้อนสเตท

เติมนมสด ค่อย ๆ ตะล่อม  ผสมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ  จากนั้นเติมเเป้งสาลีที่ร่อนเเล้ว  ผสมให้เข้ากัน

ท้ายสุดเติมส่วนผสมของเนยละลาย (ทิ้งไว้พออุ่น)  เเละผสมให้เข้ากัน  ค่อย ๆ ตะล่อมด้วยไม้พาย หรือตะกร้อมือ

เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่กรุด้วยกระดาษไข  ก่อนเข้าอบยกกระเเทกสูงจากพื้นเล็กน้อยเพื่อไล่ฟองอากาศประมาณสองครั้ง

อบที่อุณหภูมิประมาณ 170 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 20 นาที


มาถึงขั้นตอนการจัดเเต่งเค้กนะคะ  วิธีการก็เหมือนที่ผ่าน ๆ มา (ทุกที)  จัดการเเบ่งเค้กออกเป็นสองส่วน  นำไซรัป (เตรียมไซรัปโดยละลายส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน)  มาทาที่หน้าเค้ก  เพื่อกันหน้าเค้กเเห้ง (เเหม่มทาส่วนที่ปาดหน้าทั้งสองด้วยเเถมทาด้านบนด้วย)


วางเค้กชั้นล่าง  ปาดครีมเเล้วสอดไส้ด้วยเมล่อน  วางทับเค้กส่วนที่สอง  ปาดวิปครีมรอบตัวเค้ก  เเล้วก็จัดเเต่งเค้กด้วยเมล่อนตามใจชอบเลยค่า


เค้กสูตรนี้นุ่มอร่อยหอมมาก ๆ ใครที่ชอบสปองค์เค้กเเบบไม่ใส่สารเสริมใด ๆ เค้กขึ้นฟูด้วยไข่ล้วน ๆ น่าจะชอบสูตรนี้นะคะ  รับรองอร่อยไม่เเพ้เค้กใส่สารเสริมใด ๆ  เเน่นอน



Uploaded from the Photobucket iPhone App

Tuesday, April 3, 2012

orange cake เค้กส้มสุดฤทธิ์

ห่างหายจากการอัพเดทบล๊อคซะนานเพราะว่ากลับไทย  หลั่นล้ามากมายไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ เรียกว่าพักผ่อนยาวอย่างเต็มที่  กลับมาญี่ปุ่นรอบนี้เลยมาเก็บตกเค้กเก่า ๆ ที่เคยทำเอาไว้เเต่ยังไม่มีเวลาว่างมา
อัพเดทซะที


เค้กก้อนนี้เป็นเค้กประยุกต์ระหว่างหน้าเค้กโด่งดังของห้องก้นครัว ณ พันทิพ กับเค้กชิฟฟ่อนส้มสุด ๆ ของเเม่ปูค่ะ เหตุที่เลือกเค้กชิฟฟ่อนเพราะว่ามีกรรมเก่ากับสปันจ์เค้ก  ทำทีไรออกมาเค้กเป็นไตทุกที  เเต่ก็ได้เจอเเล้วกับสปันจ์เค้กที่ตีก็ไม่เป็นไต เเต่เอาไว้ค่อยลงงวดหน้าละกันนะคะ  อีกเหตุนึงที่ไม่ค่อยชอบสปันจ์เค้กซักเท่าไหร่เพราะว่าไม่ค่อยชอบสารเสริมอย่างพวก เอสพี  ชิฟฟ่อนเค้่กเลยเป็นอีกตัวเลือกนึงที่อร่อยเเบบนุ่ม ๆ โดยไม่ต้องพึ่งสารเสริม


สำหรับตัวเนื้อเค้กสูตรเเม่ปูคอนเฟิร์มว่าอร่อย หอมเนื้อส้มสุด ๆ เเทบไม่ต้องราดอะไรก็อร่อยเเล้วค่ะ  เเต่เพื่อเพิ่มอรรถรสในการหม่ำมากขึ้นก็เลยราดหน้าส้มตามเเบบฉบับเค้กส้มชื่อดังซะหน่อย


ส่วนตัวเค้ก (พิมพ์ขนาด 18 cm)


ไข่ไก่สามฟอง (เเยกไข่เเดง ไข่ขาว)
น้ำตาลทราย.................................. 1 1/3 ถ้วยตวง
ผงฟู.............................................. 1 ช้อนโต๊ะ
เเป้งสาลี........................................ 2 ถ้วยตวง
เกลือ............................................. 1 ช้อนชา
น้ำมัน............................................. 1/3 ถ้วยตวง
นม..................................................1/4 ถ้วยตวง
ผิวส้ม............................................ 2 ช้อนโต๊ะ (ขูดจากผิวส้มมี่ใช้)
น้ำส้ม............................................ 2/3 ถ้วยตวง


ผสม แป้ง น้ำตาล ๑ ถ้วย  ผงฟู เกลือ น้ำส้ม น้ำมัน นม ผิวส้ม ไข่แดงเข้าด้วยกัน  แล้วใช้เครื่องตีด้วยความเร็วต่ำใช้เวลาแป๊บเดียวค่ะ อย่าตีนานเเค่พอให้ทุกอย่างเข้ากัน

เอาไข่ขาวที่แยกไว้ใส่อ่างผสมตีด้วยความเร็วสุด  จนไข่เริ่มเป็นฟองละเอียด  ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายทีละ 1 ช้อนโต๊ะ  เเล้วตีไปจนน้ำตาลหมดไข่ขาวขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน (ขั้นตอนนี้ใส่น้ำตาลแค่ 1/3 ถ้วย)


เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้เเบ่งผสมส่วนของไข่ขาวที่ตีขึ้นฟูไว้ลงในชามส่วนผสมของแป้ง แล้วใช้ไม้พายหรือตะกร้อมือตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน  จากนั้นเทใส่พิมพ์  สำหรับพิมพ์เค้ก ให้ทาน้ำมันบางๆ แล้วโรยด้วยแป้ง  เคาะๆพิมพ์ให้แป้งกระจายติดไปทั่วทั้งพิมพ์  แล้ววางกระดาษไขที่ตัดได้พอดีกับก้นพิมพ์แล้วทับลงไป เคาะพิมพ์ไล่อากาศสองสามครั้ง อบนาน 25-30 นาที 180 องศาเซลเซียส (ขึ้นกับเตาอบเเต่
ละบ้านนะคะ)


วิธีเชคสุกของเค้กก็ใช้ไม่จิ้มฟันทิ่มลงไป  ถ้าไม่มีเนื้อเค้กเหลว ๆ ติดออกมาก็เเปลว่าเค้กสุกเเล้วค่ะ




ซอสส้มราดหน้าเค้ก


น้ำส้มซันควิก ฝาแดง....................... 75 กรัม
น้ำ................................................ 300 กรัม
แป้งกวนไส้..................................... 25 กรัม  (เเหม่มใช้เเป้งข้าวโพดเเทน)
น้ำตาลทราย................................... 90 กรัม
เนย................................................ 25 กรัม



ปัญหาเกิดเมื่อไม่สามารถหาน้ำส้มซันควิกได้ เเหม่มก็เลยต้องพึ่งน้ำส้มเข้มข้นยี่ห้อของที่นี่  เเละปรุงเเบบสด ๆ ที่ว่าปรุงเเบบสด ๆ คือ ทำไป เติมไป ชิมไป  ชิมจนเป็นรสที่เราพอใจเพราะว่ารสชาติน้ำส้มไม่
เหมือนซันควิก  สำหรับคนที่หาวัตถุดิบได้ก็ทำตามสูตรข้างบนไปเลยนะคะ ไม่ต้องประยุกต์เหมือนเเหม่ม

วิธีทำซอสก็ไม่ยาก  นำส่วนผสมทุกอย่าง ยกเว้นเนย ใส่ลงหม้อ ใช้ทัพพีคนให้แป้งละลายก่อน  นำไปตั้งไฟอ่อนๆ หมั่นคนอยู่เสมอ จนลักษณะข้นขึ้นเหมือนน้ำส้ม  ปิดเตาใส่เนย คนให้เนยละลาย และคลายร้อนเล็กน้อย (สังเกตุส่วนผสมจะข้นขึ้น)  แล้วนำไปราดเค้กได้เลยค่ะ


Uploaded from the Photobucket iPhone App




Uploaded from the Photobucket iPhone App

Tuesday, February 21, 2012

raisin muffin

วันนี้ขอเปลี่ยนแนวมาลองทำมัฟฟินกันบ้างนะคะ  สูตรของ raisin muffin หรือมัฟฟินลูกเกด มาจากหนังสือชื่อ fresh from the oven ของ Hamlyn  วิธีทำไม่ยากใช้เวลาในการเตรียมประมาณ 20 นาที  แต่เเหม่มขอดัดแปลงนิดหน่อย สูตรดั้งเดิมเติมลูกพรุนแห้ง แต่เเหม่มชอบกินลูกเกดมากกว่า ไม่เป็นไรใช้ได้เหมือนกัน


สูตรนี้ทำได้ประมาณ 12 ชิ้น

แป้งสาลีเอนกประสงค์............................. 2 1/2 ถ้วยตวง
ผงฟู....................................................... 3 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง.................................... 1/2 ถ้วยตวง
ลูกเกดแห้ง............................................. 2/3 ถ้วยตวง (ถ้าใช้พรุนแห้งก็แนะนำให้สับหยาบก่อน)
ไข่ไก่..................................................... 3 ฟอง
น้ำมันดอกทานตะวัน.............................. 4 ช้อนโต๊ะ
เนยจืดละลาย........................................ 4 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวนิลลา............................................ 1 1/2 ช้อนชา
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ................................ 2/3 ถ้วยตวง

เริ่มทำกันเลยดีกว่า
แบ่งส่วนผสมออกเป็นสองส่วน
ส่วนผสมที่ 1




แป้งสาลีเอนกประสงค์  ผงฟู  น้ำตาลทรายแดง  ลูกเกดแห้ง

ส่วนผสมที่ 2




ไข่ไก่ น้ำมันพืช  วานิลลา  โยเกิร์ต  เนยจืดละลาย
สิ่งที่สำคัญ ไข่ไก่ โยเกิร์ต  ควรทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อน  
ส่วนเนยละลาย  ทิ้งไว้ซักพักอย่าผสมขณะร้อน

ขั้นตอนการทำเริ่มจากส่วนผสมที่ 1



 


ร่อนแป้ง


 


เติมน้ำตาลทรายแดง ผงฟู
ผสมส่วนผสมเข้าด้วยกัน



 

เติมลูกเกดแห้งลงไป คนผสมให้เข้ากัน

ส่วนผสมที่ 2

 


ตอกไข่ทั้งหมด เติมกลิ่นวนิลลา  น้ำมันดอกทานตะวันลงในไข่  ตีผสมให้พอเข้ากัน

 


เติมโยเกิร์ต  แล้วตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้ง


 


ค่ิอย ๆ เทส่วนผสมที่ 2 (ของเหลว) ลงในส่วนผสมที่ 1 (ของแห้ง) คนผสมให้เข้ากัน




เทส่วนผสมลงในพิมพ์  วันนี้แหม่มใช้พิมพ์ซิลิโคน  รองตรงพื้นพิมพ์ด้วยพิมพ์กระดาษอีกที 
เติมส่วนผสมให้พอดีกับพิมพ์กระดาษ
เข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศา 25 นาที  ตามสูตร 18-20 นาที อันนี้ก็เเล้วเเต่เตาอบของแต่ละคนนะคะ





พอดีว่ามีสตอเบอร์รี่เลยขอยืมมาเป็นฉากหลังซะหน่อย