Tuesday, February 21, 2012

raisin muffin

วันนี้ขอเปลี่ยนแนวมาลองทำมัฟฟินกันบ้างนะคะ  สูตรของ raisin muffin หรือมัฟฟินลูกเกด มาจากหนังสือชื่อ fresh from the oven ของ Hamlyn  วิธีทำไม่ยากใช้เวลาในการเตรียมประมาณ 20 นาที  แต่เเหม่มขอดัดแปลงนิดหน่อย สูตรดั้งเดิมเติมลูกพรุนแห้ง แต่เเหม่มชอบกินลูกเกดมากกว่า ไม่เป็นไรใช้ได้เหมือนกัน


สูตรนี้ทำได้ประมาณ 12 ชิ้น

แป้งสาลีเอนกประสงค์............................. 2 1/2 ถ้วยตวง
ผงฟู....................................................... 3 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง.................................... 1/2 ถ้วยตวง
ลูกเกดแห้ง............................................. 2/3 ถ้วยตวง (ถ้าใช้พรุนแห้งก็แนะนำให้สับหยาบก่อน)
ไข่ไก่..................................................... 3 ฟอง
น้ำมันดอกทานตะวัน.............................. 4 ช้อนโต๊ะ
เนยจืดละลาย........................................ 4 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวนิลลา............................................ 1 1/2 ช้อนชา
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ................................ 2/3 ถ้วยตวง

เริ่มทำกันเลยดีกว่า
แบ่งส่วนผสมออกเป็นสองส่วน
ส่วนผสมที่ 1




แป้งสาลีเอนกประสงค์  ผงฟู  น้ำตาลทรายแดง  ลูกเกดแห้ง

ส่วนผสมที่ 2




ไข่ไก่ น้ำมันพืช  วานิลลา  โยเกิร์ต  เนยจืดละลาย
สิ่งที่สำคัญ ไข่ไก่ โยเกิร์ต  ควรทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อน  
ส่วนเนยละลาย  ทิ้งไว้ซักพักอย่าผสมขณะร้อน

ขั้นตอนการทำเริ่มจากส่วนผสมที่ 1



 


ร่อนแป้ง


 


เติมน้ำตาลทรายแดง ผงฟู
ผสมส่วนผสมเข้าด้วยกัน



 

เติมลูกเกดแห้งลงไป คนผสมให้เข้ากัน

ส่วนผสมที่ 2

 


ตอกไข่ทั้งหมด เติมกลิ่นวนิลลา  น้ำมันดอกทานตะวันลงในไข่  ตีผสมให้พอเข้ากัน

 


เติมโยเกิร์ต  แล้วตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้ง


 


ค่ิอย ๆ เทส่วนผสมที่ 2 (ของเหลว) ลงในส่วนผสมที่ 1 (ของแห้ง) คนผสมให้เข้ากัน




เทส่วนผสมลงในพิมพ์  วันนี้แหม่มใช้พิมพ์ซิลิโคน  รองตรงพื้นพิมพ์ด้วยพิมพ์กระดาษอีกที 
เติมส่วนผสมให้พอดีกับพิมพ์กระดาษ
เข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศา 25 นาที  ตามสูตร 18-20 นาที อันนี้ก็เเล้วเเต่เตาอบของแต่ละคนนะคะ





พอดีว่ามีสตอเบอร์รี่เลยขอยืมมาเป็นฉากหลังซะหน่อย

Friday, February 17, 2012

Chiffon cake with strawberry sauce

เมื่อวานเกิดอาการเซ็งจิตเล็กน้อยค่ะ เลยต้องหาอะไรทำ สืบเนื่องจากอาการของมนุษย์ประหลาดที่อยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ฮ่า ฮ่า เลยจัดเต็มทำเค้กซะเลย 

สตอเบอรี่เเสนเเพงที่ซื้อมาก็ยังไม่หมดซะที (เอ๊ะ สตอเบอรี่กลายเป็นค้างปีซะเเล้ว) เลยต้องหาวิธีการกำจัดสตอเบอรี่  ถ้าจะหม่ำเเบบสด ๆ มันก็ไม่ได้อารมณ์ต้องทำอะไรให้ยากขึ้นค่ะ  นั่งจินตนาการคิดภาพเค้กคร่าว ๆ ว่าน่าจะต้องนิ่ม ๆ หม่ำกับวิปครีมนุ่ม ๆ ราดสตอเบอรี่เยิ้ม ๆ นะ โอ้โห อร่อยเหาะ ถามหาสูตรเค้กจากอากู๋เหมือนเคย    เค้กคราวนี้เป็นสูตรเค้กจากเจ้าของบล๊อคชื่อดัง  เเม่ปูเเห่งบล๊อคเเกงค์ค่ะ เเม่ปูตั้งชื่อเค้กว่า Strawberry cream cake  ก่อนหน้านี้เเหม่มเคยตั้งชื่อเค้กนี้เเล้ว เดี๋ยวจะซ้ำกันเลยขอเปลี่ยนเป็น Chiffon cake with strawberry sauce นะคะ


เเหม่มเพิ่งจะเข้าใจว่าพิมพ์ของไทยกับที่ญี่ปุ่นขนาดไม่เท่ากัน (ความสูง)  ก็ตอนที่เพื่อนโทรมาถามเรื่องเค้ก ว่าทำไมเค้กเเหม่มถึงเตี้ยจัง  เพื่อนยืนยันโดยการถ่ายรูปมาให้ดู  โอ้ววว เค้กเธอสูงเป็นคอนโดเลยอ่ะ  พอดีว่าพิมพ์ที่เเหม่มซื้อที่ญี่ปุ่นจะสูงน้อยกว่าที่ไทย  เเต่ความกว้างเท่ากัน  เวลาเเหม่มอบตามสูตร (โดยเฉพาะสูตรเค้กของไทย)  เค้กจะเหลือ  ใส่พิมพ์ได้ไม่หมด เค้กที่เหลือเลยกลายมาเป็นคัพเค้ก   เพราะฉะนั้นเค้กที่อบออกมาของเเหม่มจึงต่ำเตี้ยเป็นเค้กกะต๊อบไม่สูงเหมือน เค้กคอนโดด้วยประการฉะนี้




Photobucket


เค้กวันนี้เลยมีสองเเบบ เเบบคัพเค้กกับเค้กก้อนค่ะ


ชิฟฟ่อนเค้ก (สำหรับพิมพ์ 18 cm)

 ไข่ไก่ขนาดใหญ่.......................... 3 ฟอง แยกไข่แดง-ไข่ขาว
น้ำตาลทราย................................. 1 1/3 ถ้วยตวง (แบ่งเป็นสองส่วน 1 ถ้วย บวก  1/3 ถ้วย)
ผงฟู............................................. 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลีเอนกประสงค์...................200 กรัม
น้ำมันคาโนล่า.............................. 1/2 ถ้วยตวง
นมสดจืด......................................3/4 ถ้วยตวง
เกลือป่น.......................................1 ช้อนชา
วานิลา........................................ .1 ช้อนชา



Strawberry sauce

สตรอเบอร์รี่สด หรือแช่แข็ง......... 3๐๐ กรัม  (ล้างให้สะอาดแล้วผ่าครึ่ง)
น้ำตาลทราย................................ 1๐๐ กรัม
น้ำส้ม.......................................... 1/4 ถ้วย
เกลือ........................................... 1/8 ช้อนชา
แป้งข้าวโพด.................................1 ช้อนชา (ละลายน้ำเล็กน้อย)


whipping cream

whipping cream.............................200 กรัม
น้ำตาลทรายป่น.............................30 กรัม
วานิลลา.........................................1 ช้อนชา



เริ่มทำชิฟฟ่อนเค้ก

เริ่มเเรกวอร์มเตาอบที่ 180 องศาเซลเซียสค่ะ  สำหรับพิมพ์ทาเนยที่ก้นอย่างเดียว  โรงแป้งเเค่บาง ๆ เเล้ววางกระดาษไขที่ก้นพิมพ์

นำส่วนผสมเเห้งร่อนรวมกัน ได้เเก่  แป้ง  ผงฟู  เกลือ  เเละน้ำตาล 1/3 ถ้วยตวง  พักไว้

ผสมส่วนของเหลว ได้เเก่ ไข่เเดง น้ำมัน นมสด วานิลาคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน  จากนั้นเติมส่วนผสมของเหลวลงในส่วนของเเป้งด้านบนที่พักเอาไว้  คนผสมให้เข้ากัน

ตีไข่ขาวให้เป็นฟองละเอียดเเล้วค่อย ๆ เติมส่วนของน้ำตาลที่เหลือ  ตีต่อด้วยสปีดสูงสุดจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน  แม่ปูเตือนเอาไว้ว่า  ระวังอย่าตีไข่ให้แข็งมากเกินไป ไม่อย่างนั้นจะได้เค้กเนื้อหยาบ  ถ้าตีไข่ไม่ได้ที่ยังเป็นน้ำใสๆอยู่ เนื้อเค้กอาจเป็นปื้นได้ค่ะ  


จากนั้นค่อย ๆ เเบ่งผสมส่วนของไข่ขาวลงในอ่างเเป้ง  เเบ่งผสมสองครั้ง ๆ ค่อย ๆ ตะล่อมผสมให้เข้ากัน อย่าลืมใช้พายยางปาดขอบอ่างด้วยค่ะ  ส่วนผสมที่ได้จะข้น พับเป็นรอยได้

เทส่วนผสมประมาณครึ่งพิมพ์  เเล้วกระเเทกเบา ๆ สองครั้งก่อนอบ  ใช้เวลาประมาณ 25-30 ถ้าพิมพ์ขอบสูงก็นานหน่อยค่ะ


ระหว่างรอเค้กสุกก็มาเตียมซอสสตอเบอรี่กันต่อ

หั่นครึ่งสตอเบอรี่ลงในหม้อ เติมน้ำตาล น้ำส้ม เเล้วตั้งไฟจนเดือด   เเหม่มชอบข้น ๆ ค่ะ เลยเติมเเป้งข้าวโพดประมาณหนึ่งช้อนชา (ละลายน้ำ)  ลงไปด้วย  หมั่นคนเป็นพัก ๆ พอซอสข้นได้ที่ก็ยกลง พักให้เย็นค่ะ  เเม่ปูเเนะนำว่าถ้าน้ำสตอเบอรี่เยอะเกินก็เอากระชอนกรองออก เเล้วเก็บเอาไว้ราดหน้าเค้กตอนตัดเสิร์ฟค่ะ


เค้กสุกเเล้วก็พักให้เย็นก่อน  เตรียมวิปปิ้งครีมให้พร้อมรอเเต่งหน้าเค้กเลยค่ะ  วันนี้ไม่ได้สอดไส้วิปปิ้งครีมตรงกลางนะคะ  โปะ ๆ ลงไปเลยค่า  ถ้าทานกันเองเเบบไม่คิดอะไรมากก็เเต่งง่าย ๆ สบาย ๆ เลยค่ะ  เสร็จเเล้วก็ราดซอสสตอเบอรี่โปะไปด้านบนเค้ก  เเช่เย็นเอาไว้ซักพัก  พอเอาออกมาตัดก็จะเยิ้มอย่างนี้ล่ะคะ



Photobucket

Wednesday, February 15, 2012

blueberry and coconut cupcake

สูตรนี้คัดลอกย้ายมาจากมัลติพลายที่เเหม่มเคยเขียนเมื่อก่อนนะคะ  ตอนนี้ก็เอามารวมเป็นบล๊อคนเดียวเลยดีกว่า  จำได้ลาง ๆ ว่าสูตรนี้เป็นสูตรเเรก ๆ ที่เริ่มหัดทำขนม  วิธีการทำไม่ยาก ใครเพิ่งหัดทำขนมใหม่ ๆ เเนะนำให้ทำสูตรนี้ง่ายที่สุดเเล้วค่ะ  สูตรนี้มาจากหนังสือ fresh from the oven book (Hamlyn)



Photobucket


สูตรคัพเค้ก

แป้งสาลีอเนกประสงค์................................3/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลป่น..................................................2 ถ้วยตวง
อัลมอนด์บด...............................................1/2 ถ้วยตวง
มะพร้าวเเห้งบด..........................................1/2 ถ้วยตวง
ผิวมะนาวขูด...............................................1 ลูก
ไข่ขาว........................................................5 ฟอง
เนยจืดละลาย..............................................3/4 ถ้วยตวง
บลูเบอรี่......................................................1 ถ้วยตวง



Photobucket


prepare all dry ingredient into another bowl (sift the flour, sugar, almond together)  adding shredded coconut and mix together
เตรียมส่วนผสมของแห้งแยกเอาไว้ในชามผสม  ร่อนแป้ง  น้ำตาล  อัลมอนด์บดรวมกัน จากนั้นเติมมะพร้าวแห้งป่นผสมรวมกัน 


 
Photobucket


whisk the egg white into separated bowl until they are frothy
ตีไข่ขาวจนเป็นโฟม (ฟองละเอียด) 


Photobucket


adding grated lemon rind into dry ingredient.
เติมผิวมะนาวขูดลงในส่วนผสมแห้ง 


Photobucket


adding whisk egg white into dry ingredient
เติมไข่ขาวที่ตีเเล้วลงในส่วนผสมแห้ง 


Photobucket


adding melted butter
เติมบัตเตอร์ที่ละลายเเล้ว 


Photobucket


fold all ingredient until smooth
คนผสมส่วนผสมให้เข้ากัน


Photobucket



spoon into mold and adding two blueberries
baking at 200 c for 20-25 min.
ตักส่วนผสมลงในพิมพ์  เติมบลูเบอร์รี่  อบที่ 200 c ประมาณ 20-25 นาที 




Photobucket 

V day chocolate cup cake

ขอแอบอินเทรนด์กะเค้าหน่อยนิดนึงกับคัพเค้กชอคโกเเลตวันวาเลนไทน์ค่า  บรรยากาศของวันเเห่งความรักที่นี่อาจจะดูคึกคักละลานตาไปด้วยชอคโกเเลตมากมาย  เเต่ว่า  ผู้หญิงต้องเป็นคนซื้อให้ฝ่ายชายนะคะ  เอิ่ม เเล้วคิดว่าเเหม่มจะซื้อให้ไหม  (ถึงซื้อให้เเล้วชั้นจะให้ใครล่ะ)  ฮ่า ฮ่า


ด้วยเหตุที่วันวาเลนไทน์ฝนตกเเน่นอน  เเหม่มเลยเเพลนรวมพลคนโสด ทั้งสาวทั้งหนุ่มที่เหลือน้อยที่นี่มารวมพลหม่ำข้าวกันที่บ้าน  เลยถือโอกาสอินเทรนด์ทำคัพเค้กชอคโกเเลตเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศศะหน่อย  เเละถือเป็นการกำจัดสตอเบอรี่สุดเเสนเเพงที่เหลือจากการทำทาร์ตเมื่อคราวที่เเล้วด้วย



Photobucket



คัพเค้กวันนี้เลยถือกำเนิดมาจากการค้นหาคัพเค้กจากอากู๋คำว่าสตอเบอรี่คัพเค้ก  เเล้วไหงมันกลายมาเป็นชอคโกเเลตไปได้   หลงเข้าไปในบล๊อคของสาวคนหนึ่ง  หน้าตาขนมน่าทานมากกกก  เป็นบล๊อคของคุณแอนนี่ http://annies-eats.com/   เลือกเบสิคชอคโกเเลตคัพเค้กมาลองทำค่ะ


สำหรับสูตรนี้ส่วนของโกโก้ผงให้ใช้เเบบ  Dutch-process cocoa powder  เเต่ที่บ้านมีเเต่ Hershey ซึ่งเป็นโกโก้เเบบธรรมชาติ  เเล้วสองเเบบนี้ต่างกันตรงไหนล่ะ http://www.davidlebovitz.com/2010/02/cocoa-powder-faq-dutch-process-v/  ลิงค์นี้มีอธิบายค่ะ ถามว่าใช้เเทนกันได้ไหม ใช้เเทนกันได้ในขนมบางประเภทค่ะ  คัพเค้กก้อนนี้เลยใช้เเบบธรรมชาติซะเลย เเต่ถ้าถามว่ารสชาติคงออกมาได้ไม่เหมือนกับต้นฉบับ  คราวหน้าคงต้องหาโกโก้ผงเเบบ Dutch-process cocoa powder มาเก็บไว้ที่บ้านค่ะ


Chocolate cup cake
สูตรสำหรับ 24 คัพเค้ก

Dutch-process cocoa power..........  1/2 ถ้วยตวงบวก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อน...........................................1/2 ถ้วยตวงบวก 1 ช้อนโต๊ะ
เเป้งสาลีเอนกประสงค์....................2 1/4 ถ้วยตวง
เบกกิ้งโซดา...................................3/4 ช้อนชา
ผงฟู...............................................3/4 ช้อนชา
เกลือ..............................................1/2 ช้อนชา
เนยสด...........................................200 กรัมบวก 1 ช้อนโต๊ะ (ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง)
น้ำตาลทรายขาว.............................1 2/3 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ไซส์ใหญ่...............................3 ฟอง  (ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง)
กลิ่นวานิลลา..................................1 ช้อนโต๊ะ
ซาวครีม ........................................3/4 ถ้วยตวง  (ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติเเทนได้ค่ะ)


For the frosting

วิปปิ้งครีม........................................1½ ถ้วยตวง (เเช่เย็น)
น้ำตาลทรายป่น...............................6 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลลา....................................1 ช้อนชา

สตอเบอรี่สดสำหรับตกเเต่ง

 
เริ่มทำกันเลยดีกว่า

วอร์มเตาอบไว้ที่   170 องศาเซลเซียสก่อนเลย วันนี้เลือกใช้ถ้วยคัพเค้กจากร้านร้อยเยน มีลายให้เลือกน่ารักเยอะเเยะเลยช่วงนี้


ผสมส่วนของโกโก้ผงกับน้ำร้อน คนผสมให้เข้ากัน



Photobucket



ผสมเนยสด (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ)  เเละน้ำตาล  ละลายให้เป็นเนื้อเดียวกันตั้งไฟปานกลาง  คนบางครั้ง  พอเนยละลายฟมกยกลงจากเตา  ตีต่อด้วย hand mixer ความเร็วกลางประมาณ 4-5 นาที  จนส่วนผสมเย็น  เติมไข่ไก่ลงไปผสมต่อให้เข้ากัน  ปาดขอบอ่างด้วยนะคะ  ต่อจากนั้นผสมส่วนของโกโก้ เเละวานิลลา  ผสมต่อจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว



Photobucket




ปรับสปิดต่ำ  เทส่วนผสมของแป้ง  สลับกับโยเกิร์ต  เเบ่งผสมสามครั้ง  โดยเริ่มเเละปิดท้ายด้วยส่วนของเเห้ง



เเบ่งเเบทเทอร์ให้เท่า ๆ กันในถ้วยคัพเค้ก   นำเข้าอบประมาณ 18-20 นาที




Photobucket

Sunday, February 12, 2012

Fresh strawberry with almond cream tart

ช่วงนี้ถือเป็นฤกษ์ดีสำหรับทำเค้กเเละขนมที่มีสตอเบอรี่เป็นส่วนประกอบเพราะว่าตอนนี้หนาวค่ะ เเละสตอเบอรี่มีอยู่มากมาย เเต่ว่าปีนี้สตอเบอรี่เเพงมากเป็นปรากฎการณ์ เอ๊ะ หรือว่าเหตุการณ์น้ำท่วมที่เมืองไทยส่งผลให้สตอเบอรี่เเพงตามไปด้วย (เเล้วมันเกี่ยวกันตรงไหน) ปีนี้เลยรอเเล้วรอเล่าเฝ้าเเต่รอสตอเบอรี่ลดราคา เเต่ก็ต้องรอเป็นสายบัวรอเก้อเพราะว่าไม่ถูกซักที จนคนใกล้ตัวที่รู้ว่าเเหม่มอยากทำทาร์ตสตอเบอรี่ม๊ากมากยื่นมือมาช่วยเหลือ โดยเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ซื้อมาให้สองเเพค สนนราคาเเพคละหกร้อยกว่าเยน เเม่เจ้า สองเเพคก็เกือบพันสี่ร้อยเยน ว่าเเล้วก็กดเครื่องคิดเลขน้อย ๆ ของเรา มายก๊อดดดด สตอเบอรี่ห้าร้อยเจ็ดสิบบาท เซโรงังกันไปเลยทีเดียว


มาเข้าเรื่องของทาร์ตสตอเบอรี่กันดีกว่า หลายวันก่อนนั่งจัดบ้านค่ะ เเล้วค้นพบว่าชั้นควรจะเลิกซื้อหนังสือทำเค้กบ้างได้เเล้ว สาเหตุเพราะว่าซื้อมาได้เเต่นั่งเชยชม   เพราะไม่มีเวลาได้ทำซักที  ระหว่างกะลังจัดก็พลันเหลือบไปเห็นหนังสือเค้กภาคภาษาญี่ปุ่นที่ซื้อมาเมื่อสามล้ามปีที่เเล้ว  (ขอเว่อร์นิดนึงเพื่อประกอบว่านานมาก)  เเละยังไม่เคยได้ทำอะไรจากหนังสือเล่มนี้เลย ซื้อมาตอนเเรกเพราะว่าอยากฝึกภาษาญี่ปุ่นเเละเป็นเล่มที่เหมาะสำหรับเพิ่งหัดทำเค้ก


หนังสือทำเค้กเล่มนี้รูปภาพประกอบสวย เเถมมีวิธีการทำเป็นขั้นตอนดูประกอบตามไม่ยุ่งยากด้วย    เเหม่มเลยเลือกสูตรสตอเบอรี่ทาร์ตจากหนังสือเล่มนี้มาประเดิมซะหน่อย



Uploaded from the Photobucket iPhone App



ส่วนผสมทาร์ตสำหรับพิมพ์ 18 เซนติเมตร

ทาร์ต

เเป้งสาลี..............................80 g
อัลมอนด์บดละเอียด...........20 g
น้ำตาลทรายป่น..................30 g
เนยสดจืด...........................40 g
ไข่ไก่...................................15 g
ไข่ไก่สำหรับทาตัวทาร์ตก่อนอบ

ครีมอัลมอนด์

แป้งสาลี.............................2 tbs.
อัลมอนด์บดละเอียด..........40 g
เนยสดจืด...........................30 g
ไข่ไก่..................................30 g
นำตาลทราย......................30 g
กลิ่นวนิลลา.......................1/2 tsp

แยมสตอเบอรี่สำหรับทาทาร์ต


Photobucket


มาทำทาร์ตกันก่อนดีกว่า

ตีเนยสดให้นิ่มก่อนนะคะ เเล้วเติมน้ำตาลตีต่อจนส่วนของเนยขึ้นฟู  จากนั้นเติมไข่ไก่ลงไปตีเเค่แป๊บเดียว  เเหม่มตีประมาณหนึ่งนาที  เติมเเป้งสาลี (ที่ร่อนเเล้ว) เเบ่งผสมประมาณสองถึงสามครั้ง ค่อย ๆ ใช้ไม้พายกด ๆ ส่วนผสมให้เข้ากันเป็นก้อน  ห่อเเป้งด้วยพลาสติกเเล้วพักในตู้เย็นประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนนำมารีด

เปิดเตาอบที่ 180 องศาเซลเซียส  เตรียมพิมพ์สิบแปดเซนติเมตรเเบบถอดก้นได้

โรยแป้งบนโต๊ะเเล้วรีดเเป้งให้บางประมาณ 2 mm

ตัดเเป้งให้ใหญ่กว่าพิมพ์เล็กน้อย กดให้พอดีพิมพ์  ใช้ส้อมจิ้มให้เป็นรู เเล้วพักพิมพ์ในตู้เย็นอีกประมาณ 20 นาที (ในหนังสือบอกเเบบนั้นเเต่เเหม่มพักไปนานประมาณเป็นชั่วโมง สาเหตุจากถูบ้านไปด้วยเเล้วลืม เหอ เหอ)

ก่อนอบ ทาตัวทาร์ตด้วยไข่ไก่ เวลาอบออกมาจะได้เหลืองสวย นำเข้าอบประมาณสิบสองนาที


เตรียมครีมอัลมอนต์กันต่อ

ระหว่างอบเเล้วเราก็มานั่งหม่ำมาม่าต่อ เอ้ยไม่ใช่ค่ะ มาเตรียมครีมคัสตาร์ดกันต่อ

ตีเนยจนนิ่มเเล้วเติมน้ำตาลทรายตีต่อจนขึ้นฟู  จากนั้นเติมวานิลลาเเละไข่  ตีให้เข้ากันเเค่เเป๊บเดียว  เติมอัลมอนด์เเละเเป้งผสมให้เข้ากันดี

ปาดครีมอัลมอนด์ให้ทั่วตัวทาร์ตที่อบออกมาเเล้ว  นำตัวทาร์ตอบต่อที่ 170 องศาเซลเซีบส ประมาณ 15-20 นาที

พออบเสร็จเเล้วก็ทาเเยมสตอเบอรี่ให้ทั่วตัวทาร์ต  เสร็จเเล้วก็วางสตอเบอรี่ตามใจฉันเลยค่ะ

ปอลิง  ในหนังสือเค้าจัดเต็มสตอเบอรี่ไม่มีผ่า เเต่เนื่องด้วยเเหม่มเหลืองบน้อย หุ หุ สตอเบอรี่เลยต้องฝานเป็นซีก ๆ จะได้เต็มทาร์ตนะค้าาาาา