super easy blueberry yogurt cake

วันนี้มีสูตรบลูเบอรี่โยเกิร์ตเค้กเเบบง่ายเเสนง่ายในรูปแบบคัพเค้กมาฝากกัน  ส่วนผสมมีไม่มากขั้นตอนไม่ยุ่งยากเเถมใช้ระยะเวลาทำไม่นาน เราเลยเรียกว่า super easy blueberry yogurt cake  เเถมอร่อยเนื้อชุ่ม ๆ ด้วยค่ะ

ส่วนผสม

                   แป้งอเนกประสงค์                                                 1 1/2   ถ้วยตวง

                   ผงฟู                                                                           2    ช้อนชา

                   เกลือ                                                                       1/2   ช้อนชา

                  โยเกิร์ตรสธรรมชาติ                                                   1    ถ้วยตวง

                  น้ำตาลทราย                                                              1     ถ้วยตวง  

                  ไข่ไก่เบอร์ 1                                                              3    ฟอง

                  กลิ่นวานิลลา                                                            1/2  ช้อนชา

                  น้ำมันพืช                                                                  1/2  ถ้วยตวง

                  บลูเบอรี่เเช่เเข็งนำมาละลายเเละเทน้ำออก             1/2  ถ้วยตวง

วิธีทำ

ร่อนส่วนของเเห้ง ได้เเก่ แป้ง ผงฟู เกลือ จากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไปคนผสมให้เข้ากัน

ในชามอีกใบผสมส่วนผสมของเหลว ได้เเก่ โยเกิร์ต ไข่ไก่ วานิลลา เเละ น้ำมันพืช  คนผสมให้เข้ากัน

ผสมส่วนของเหลว  เเละของเเห้ง  คนผสมให้เข้ากัน

ผสมแป้งอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ กับบลูเบอรี่ประมาณ 1 1/2  ถ้วยตวง  

เทบลูเบอรี่ลงในส่วนผสม คนผสมให้เข้ากัน

นำเข้าอบที่อุณหภูมิประมาณ 180 องศาเซลเซียสประมาณ 30 นาที

chocolate sponge layer cake ชอคโกเเลตเนื้อสปองค์นุ่ม ๆ สไตล์ญี่ปุ่น

ตั้งเเต่ได้หนังสือจากที่ญี่ปุ่นมา  ตอนนี้ก็เห่อทำเค้กเเบบญี่ปุ่นค่ะ  หนังสือสปองค์เค้กเล่มนี้ดีจริง ๆ เนื้อเค้กที่ได้นุ่ม รสชาติอร่อยทานเพลิน ๆ สไตล์ญี่ปุ่นเเบบไม่หวานมาก เเต่ละมุ้นลิ้นจริง สาธยายมาซะเยอะ  วันนี้มีสูตรสปองค์เค้กชอคโกเเลตพร้อมวิปปิ้งครีมชอคโกเเลตมาฝาก  ลองทำเเล้วอร่อยมาก เหมาะสำหรับคนชอบทานเค้กเนื้อนุ่ม ๆ ไม่หวานมาก  เเละที่สำคัญสูตรนี้ไม่ใส่สารเสริมอีกด้วย

สูตรสำหรับถาดอบสี่เหลี่ยมขนาด 29 cm x 29 cm

ชอคโกเเลตสปองค์เค้ก
ไข่ไก่เบอร์ 2                                       4 ฟอง
น้ำตาลสำหรับทำเค้ก                        85 กรัม
นมสด                                                 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งเค้ก                                             50 กรัม
ผงโกโก้                                             10 กรัม

วิปปิ้งครีมชอคโกเเลต
วิปปิ้งครีม                                           400 มิลลิลิตร
milk chocolate or bitter chocolate    100 กรัม (ในสูตรใช้ bitter เเต่เเหม่มปรับใช้ milk chocolate)
ผงโกโก้ไว้โรยตกเเต่ง

วิธีทำ

ตอกไข่เเละใส่น้ำตาลลงในชามผสม ตีไข่พอเป็นฟองละเอียด

เตรียมน้ำร้อนประมาณ 60-70 องศาเซลเซียสไว้ในชามผสมอีกใบให้มีขนาดใหญ่กว่าชามไข่

พอน้ำร้อนได้ที่ยกชามไข่มาวางบนชามน้ำร้อน  

ตีไข่ด้วย hand mixer ต่อไปเรื่อย ๆ จนอุณหภูมิของส่วนผสมไข่ได้ประมาณ 37 องศาเซลเซียส 

(ถ้าไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ ก็ลองเอามือจุ่มส่วนผสมดู ถ้าพออุ่นก็ยกออกได้เเล้วค่ะ)   

ยกชามผสมไข่ลงเเล้วตีด้วย hand mixer ต่อไปเรื่อย ๆ 

จนส่วนผสมของไข่ข้นขึ้นจนได้เป็นลักษณะ ribbon stage คือสามารถลากส่วนผสมมาพับทบได้ 

หรือง่าย ๆ ก็ลองใช้ไม้จิ้มฟัน  ถ้าไม้จิ้มฟันไม่ล้มบนส่วนผสมก็ไช้ได้เเล้วค่ะ)  

เติมส่วนผสมของนมสด คนส่วนผสมอย่างเบามือให้เข้ากัน  

จากนั้นเติมส่วนผสมของเเป้งเเละโกโก้ที่ร่อนรวมกัน  ค่อย ๆ ตะล่อมอย่างเบามือ

เทส่วนผสมที่เข้ากันเเล้วลงในถาดที่ปูกระดาษไข  

อบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียสประมาณ 15-20 นาที  

เค้กสุกเเล้วก็นำมาคว่ำหน้าบนตะเเกรงรอให้เย็นค่ะ

เตรียมวิปปิ้งครีมชอคโกเเลต  โดยนำชอคโกเเลตมาละลายบนน้ำร้อน  ทิ้งไว้พออุ่น

ตีวิปปิ้งครีมจนข้นขึ้นสามารถลากทบได้ (ยังไม่เป็น soft peak)

 เเล้วเติมชอคโกเเลตที่ละลาย (ระวังอย่าให้ร้อน)  ตีต่อจนวิปปิ้งครีมตั้งยอด

ปอลิง ก่อนตีเเช่วิปปิ้งครีม ภาชนะ หัวตีให้เย็นจัด  ขณะตีวางโถน้ำเเข็งรองก้นโถวิปปิ้งครีม  เเล้วถ้าเป็นไปได้เปิดแอร์ทำจะดีมากค่ะ

มาถึงขั้นตอนการประกอบเค้ก  ตัดเค้กเป็นสามชิ้นขนาดเท่า ๆ กัน  

ปาดครีมในชั้นเค้กที่หนึ่ง ประกบตัวเค้กชั้นที่สอง  ปาดครีมเเล้วสลับตัวเค้กกันต่อจนครบ  

จากนั้นก็ปาดเค้กรอบตัวเค้ก ตกเเต่งด้านบนนิดหน่อย  ตบท้ายด้วยโรยผงโกโก้ค่ะ

เเช่เย็นไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนมาตัดทาน

เสร็จเเล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ

green tea sponge cake เค้กชาเขียวเนื้อนุ่ม ๆ พร้อมครีมชาเขียวชั้น ๆ

มีโอกาสได้กลับไปเยือนญี่ปุ่นอีกครั้งเเถมได้ชิมเค้กชาเขียว  เลยเกิดเเรงฮึดว่ากลับมาไทยต้องทำเค้กชาเขียวอีก  ค้นตู้เจอชาเขียวที่ซื้อมาตั้งเเต่ต้นปีที่ไปเชียงรายยังไม่มีโอกาสได้ลองใช้เลยลองมาทำเค้กชาเขียวสูตรนี้ซะเลย  สูตรนี้เป็นสูตรจากหนังสือญี่ปุ่นที่อุตส่าห์หอบเเบกข้ามน้ำข้ามทะเลมานะคะ

สูตรตัวเค้ก

แป้งเค้ก 60 g

ไข่เเดง 4 ฟอง

น้ำตาลส่วนที่ 1  45 g

ไข่ขาว 4 ฟอง

น้ำตาลส่วนที่ 2  45 g

นมสด 1 ช้อนโต๊ะ

ชาเขียว 1 ช้อนชา

น้ำร้อน 1 ช้อนชา

ส่วนวิปปิ้งครีม

วิปปิ้งครีม 200 g

น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ

ชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ตีส่วนของไข่ขาว จนเป็นฟองละเอียดขาว  เเบ่งเติมน้ำตาลส่วนที่ 2 เป็นสองส่วน  เเล้วตีจนตั้งยอด

ตีส่วนของไข่เเดงต่อ (ไม่ต้องล้างหัวตี)  ทะยอยเติมน้ำตาลส่วนที่ 1 ตีจนไข่เเดงมีสีอ่อนลง 

(ค่อนไปทางขาวนวล)

เติมแป้ง (ผ่านตะเเกรงร่อน) ผสมส่วนของแป้งเเละของไข่เเดงให้เข้ากัน 

เเล้วเติมนมสดลงไปค่ะ (นมสดสีคล้ำเพราะว่าใส่นมตราหมีค่ะ)

เมื่อส่วนผสมเข้ากันดี เเบ่งเติมส่วนของไข่ขาวเป็นสามส่วน  ค่อย ๆ ตะล่อมผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ 

เตรียมส่วนผสมของเนื้อเค้กชาเขียวสำหรับทำลวดลาย โดยละลายน้ำร้อนกับชาเขียว ทิ้งให้ให้เย็น เเล้วตักส่วนผสมของเนื้อเค้กมาผสมกับชาเขียวที่ละลายเอาไว้เเล้ว  

เตรียมถาดรองกระดาษไข เเล้ววาดเส้นตามเเนวยาวค่ะ (หรือจะครีเอทเป็นรูปแบบอื่น ๆ ก็ได้ เเต่ฝีมือทำเส้นตรงยังไม่ค่อยตรงเลยเอาเเบบนี้ก่อนค่ะ)

จากนั้นเติมแป้งที่ผสมเอาไว้เเล้วราดลงบนลายที่เราทำเอาไว้ เกลี่ยให้เท่ากัน

นำเข้าอบที่ 190  องศาเซลเซียสประมาณ 20-25 นาที
เชคสุกโดยการจิ้มเนื้อเค้กถ้าไม่มีแป้งติดก็สุกเเล้วค่ะ

ทีนี้มาถึงตอนประกอบร่างเค้กกัน  

ค่อย ๆ ลอกเเผ่นเค้กออกมา  ปรากฏว่าติดหนึบ เเต่โอเคไม่เป็นไรค่ะ คราวหน้าเราต้องใช้กระดาษไขยี่ห้อดีซะหน่อย  

เเบ่งส่วนให้เท่า ๆ กัน มีส่วนเกินนิดหน่อยเดี๋ยวเอามาทำอย่างอื่นค่ะ

ตีวิปิ้งครีม น้ำตาลเเละชาเขียว จนตั้งยอด

ปาดวิปปิ้งครีมลงไปบนเค้กชั้นที่หนึ่ง ความหนาบางตามใจชอบเลยค่ะ  วางทับเค้กชั้นที่สองเเล้วปาดวิปปิ้งครีมตาม ทำเเบบนี้ไปเรื่อย ๆ อยากได้กี่ชั้นจัดไปเลยค่ะ

เสร็จเเล้วก็ตกเเต่งด้านบนอีกนิดหน่อย เเช่ตัวเย็นให้เซทตัวซักพักก่อนมาตัดชิมนะคะ 

ส่วนเศษที่เหลือก็ทำเป็นชิ้นจิ๋ว น่ารักไปอีกแบบ

 

It's a butter cake เค้กเนยสด

ช่วงนี้ห่างหายจากการทำเค้กไปบ้าง เพราะว่าเริ่มมีงานประจำทำ  ถ้าหยุดเสาร์อาทิตย์ก็จะทำเรื่อย ๆ เเต่ก็จะทำเเต่สูตรเดิม ๆ ง่าย ๆ เน้นเอาเร็วเเละสะดวก   จริง ๆ บัตเตอร์เค้กก็เป็นเค้กที่เคยลองฝึกทำเมื่อตอนที่ทำเค้กใหม่ ๆ เพราะว่าง่าย  เหมือนเป็นเบสิคเค้กเบื้องต้นสำหรับผู้เรียนทำเค้ก  วันนี้ที่ทำเพราะมีคนร่ำ ๆ อยากกิน  เราก็เลยต้องหาสูตรที่มีของอยู่เเล้วในตู้  เน้นเอาสะดวกเราไว้ก่อน เลยได้ลองทำตามสูตรของคุณ เเม่ครัวจอมมั่วนิ่ม  สำหรับวิธีทำวันนี้ไม่มีภาพประกอบเเต่ละขั้นตอนเพราะว่าตอนทำดึกมาก เเละง่วงมากเเล้ว ต้องขออภัย

ส่วนผสม  mixture (10x20x7 cm)

แป้งเค้ก  (cake flour)  120 g

ผงฟู (baking powder)  1 teaspoon.

เกลือป่น (salt)  1/4  teaspoon

เนยสด (butter)  100 g

น้ำตาลทราย (sugar )100 g

ไข่ไก่ขนาดกลาง (eggs medium size)  2   egge

นมสด  (milk)  50 g

กลิ่นวานิลลา  (vanilla flavor)  1/2 teaspoon

วิธีทำ   

นำพิมพ์เค้กมาทาเนย  หรือจะเอากระดาษไขมาวาง เเต่สำหรับเราใช้อะลูมิเนียมฟอยด์ที่ขายตามแมคโคร ตกอันละ 10 บาท เเต่ก็สะดวกดีค่ะ มีฝาปิดพร้อม  อุ่นเตาอบที่ 160 องศาเซลเซียส

ร่อนส่วนของเเป้ง  เเละผงฟูให้เข้ากันเเล้วพักเอาไว้ (ร่อนประมาณสองรอบเพื่อให้เเป้งเเละผงฟูเข้ากันดี)

นำเนยมาวางที่อุณหภูมิห้อง  พอกดได้  (อย่าให้นิ่มมากเดี๋ยวจะตีไม่ขึ้นค่ะ)  หั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ ใส่อ่างผสม

ตีเนยสดกับเกลือ ด้วยความเร็วต่ำไปสูงจนเนื้อเนียนดี  ทำด้วยความเร็วในขณะที่เนยยังเย็นอยู่

ค่อย ๆ เติมน้ำตาลลงไปตีทีละนิด  ด้วยความเร็วสูง  ตีจนเนื้อฟูเนียน ใช้เวลาประมาณ 5-6 นาที  (สังเกตุเนยจะฟูเนียนเบา  สีเริ่มอ่อนลงเป็นขาวนวล) คอยปาดอ่างผสมเวลาตีด้วยนะคะ

  

ตอกไข่เเละตีไข่เหมือนทำไข่เจียว  ค่อย ๆ เทไข่ใส่ในชามผสมของเนยที่ตีจนขึ้นฟูเนียนเเล้ว  ตีด้วยความเร็วสูง  (คอยปาดอ่างผสมด้วยค่ะ)  ส่วนผสมจะมีลักษณะเป็นครีมเนื้อเนียนเข้ากันดี ไม่เเยกไข่กับเนย  จากนั้นเติมวานิลลา ตีผสมให้เข้ากัน

เมื่อผสมเข้ากันเเล้ว ค่อย ๆ เเบ่งใส่ แป้ง สลับกับนมสด ทำประมาณ สาม สี่ รอบ โดยเริ่มที่แป้งก็ต้องจบที่แป้ง ( แป้ง  นมสด แป้ง นมสด แป้ง นมสด แป้ง) ใช้ตะกร้อมือผสมให้เข้ากันดี คนผสมให้พอส่วนผสมเข้ากัน 

เนื้อเเป้งที่ได้จะไม่เหลวหรือข้นจนเกินไป จากนั้นเทใส่พิมพ์  เกลี่ยส่วนผสมให้เรียบเสมอกัน

นำไปอบ  โดยอบที่ไฟล่างอย่างเดียวประมาณ 40 นาที  จากนั้นอบไฟบนต่ออีก 10 นาที (อยู่ที่เตาอบของเเต่ละคนด้วยนะคะ)

อบเสร็จเเล้วทิ้งเค้กไว้ให้เย็นก่อนนำมาตัดทานนะคะ เจ้าของสูตรบอกว่าทิ้งข้ามคืน หรือเเช่เย็นนำออกมาทานจะอร่อยชุ่มเนย  เเต่สำหรับเค้กเนยสดของเราหมดตั้งเเต่วันเเรกเลยค่ะ ฮ่า ฮ่า  

ปอลิง 1  หั่นออกมาได้น่าเกลียดมาก ฮ่า ฮ่า เพราะว่าใช้มีดทำกับข้าวหั่น  ท่าจะให้ดีใช้มีดตัดเค้กนะคะ 

ปอลิง 2  สูตรนี้อร่อย  ทำง่าย จริง ๆ ค่ะ

Blueberry cake in a cup

วันนี้มีเค้กที่ทำง๊ายง่ายมานำเสนอ blueberry cake in a cup ขอเรียกเก๋ ๆ ว่า บลูเบอรี่เค้กในถ้วยใบน้อย (ฮ่า ฮ่า)  ที่คนชิมชิมเเล้วบอกว่าคราวหน้าใส่มาเป็นถาดเลยนะหม่ำยาก  เค้กนี้เกิดได้เพราะไปเดินเล่นเเถวท๊อบซุปเปอร์มาร์เก๊ต เหลือบไปเห็นบลูเบอรี่สดเเล้วอ่อนใจมากค่ะ  ราคาเเพงมากเเต่จำนวนบลูเบอรี่นับเม็ดได้ เราเลยจัดการบึ่งไปเเมคโครจัดบลูเบอรี่เเช่เเข็งมาห่อใหญ่  เค้กในบล๊อคถัด ๆ ไปก็คงมีบลูเบอรี่อีกเยอะค่ะ

มาเข้าเรื่องเค้กกันดีกว่า  เค้กวันนี้ทำเเสนง่าย  ส่วนผสมก็ไม่เยอะ  เหมาะสำหรับคนทำมือใหม่ที่อยากทำเค้กทานเองที่บ้านง่าย ๆ เก็บไว้เป็นมื้อเช้าทานคู่กับกาเเฟก็ไม่เลว  

ส่วนผสม (สำหรับ 9 ถ้วย)

เนยสดจืด (ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง)              100 กรัม

น้ำตาลทราย                                            120 กรัม

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ                                   50 กรัม

ไข่ไก่เบอร์กลาง  (ตอกผสมให้เข้ากัน)        3 ฟอง

วานิลลา                                                       1  ชช.

แป้งสาลีอเนกประสงค์                             210 กรัม

เบกกิ้งพาวเดอร์                                           1  ชช.

บลูเบอรี่สดหรือเเช่เเข็ง

หั่นเนยเป็นชิ้นเล็ก ๆ เเล้วตีด้วยเครื่องตีมือ  ค่อย ๆ ทะยอยใส่น้ำตาลจนหมด  ตีจนกระทั่งเนยขึ้นฟู

จากนั้นเติมโยเกิร์ตเเล้วผสมให้เข้ากันค่ะ

ตีผสมจนส่วนเข้ากันดี
ค่อย ๆ ทะยอยเติมไข่ทีละน้อยเเล้วตีผสมให้เข้ากัน 

เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีเเล้ว  เติมวานิลลา  จากนั้นเติมส่วนผสมของแป้งเเละเบกกิ้งพาวเดอร์  ร่อนเหนือกะละมังผสมเลยค่ะ  เเล้วคนส่วนผสมให้เข้ากันโดยใช้ไม้พาย

ลักษณะส่วนผสมที่ได้จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ

ตักส่วนผสมใส่ถ้วยพิมพ์  ประมาณ 3/4 ของถ้วย  จากนั้นวางบลูเบอรี่ลงไป ถ้าเป็นแบบเเช่เเข็ง  ไม่ต้องละลายก่อนนะคะใส่ทั้งยังเเข็งเลย  ถ้าเป็นเเบบสดให้เอาไปคลุกกับเเป้งสาลีก่อน  บลูเบอรี่จะได้ไม่จม

นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 C ประมาณ 25-30 นาที  เชคสุกโดยใช้ไม้จิ้มฟันเหมือนเดิมค่ะ ถ้าจิ้มลงไปเเล้วไม่มีส่วนเหลว ๆ ติดปลายไม้เเปลว่าสุกเเน่นอน  

ถ้าใครอยากทานคู่ไอซิ่งก็โรยหน้าเลยนะคะตามสะดวก

Cocoa brownies - sweet'n bitter

ช่วงก็นี้ใกล้เทศกาลวาเลนไทน์เเล้ว ถ้าใครยังคิดหาของฝากให้กับเพื่อน ๆ หรือคนที่เรารักไม่ได้ มาลองทำโกโก้บราวนี่กันไหมคะ  สูตรนี้ทำไม่ยาก เวลาเตรียมไม่นานเเถมออกมาอร่อย  เหมาะสำหรับเป็นของฝากสำหรับวาเลนไทน์ยิ่งนัก (ผีรำลึกญี่ปุ่นในช่วงวาเลนไทน์เข้าสิง 555)  เเทนที่สาว ๆ จะหาของขวัญเเทนใจมาลองเปลี่ยนเป็นบราวนี่สูตรเข้ม ๆ เพิ่มไขมันให้กับพุงกันดีกว่า 

จดสูตรกันเลยดีกว่า

แป้งอเนกประสงค์...................75 g

ผงโกโก้..................................65 g

เนยสดจืด...............................165 g

น้ำตาลทรายละเอียด...............220 g

เกลือป่นนิดหน่อย

ไข่ไก่........................................2 ฟอง

ช๊อคโกแลตชิฟ.........................1 ถต.

วานิลลา....................................3 ชช

ถั่วนิดหน่อย

ปล. ถ้าใครชอบรสเเบบเข้ม ๆ ก็ลดน้ำตาลลดหน่อยเหลือประมาณ 180 g จะได้ไม่หวานมากด้วยค่ะ

เริ่มต้นวิธีทำ ตีไข่ไก่ให้เข้ากัน

ตีไข่จนเริ่มเป็นฟอง จากนั้นค่อย ๆ เติมน้ำตาลทรายละเอียด ตีผสมให้เข้ากันนานพอที่น้ำตาลละลายหมด (ตีให้เเรง ๆ หน่อยค่ะ)  จากนั้นเติมวานิลลา

เติมเนยละลายที่อุ่น (ก่อนผสมคนส่วนของเนยละลายให้เข้ากัน ไม่เติมลงไปในขณะเนยร้อนหรือเย็นจัด) ลงไปในส่วนผสมคนให้เข้ากัน




เติมแป้งเเละผงโกโก้ที่ไม่ร่อนลงไป คนผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ

เติมชอคโกเเลตชิพเเล้วคนผสมให้เข้ากัน

ตักใส่พิมพ์อบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ไฟบน ล่าง ประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าจะสุก
 (เชคโดยใช้ไม้จิ้้มฟันิ่มลงไปในเนื้อเค้ก ถ้าไม่มีส่วนผสมของเค้กติดมาแปลว่าสุกค่ะ)

อบเสร็จเเล้ว ง่ายใช่ไหมล่ะ