ตั้งเเต่ได้หนังสือจากที่ญี่ปุ่นมา ตอนนี้ก็เห่อทำเค้กเเบบญี่ปุ่นค่ะ หนังสือสปองค์เค้กเล่มนี้ดีจริง ๆ เนื้อเค้กที่ได้นุ่ม รสชาติอร่อยทานเพลิน ๆ สไตล์ญี่ปุ่นเเบบไม่หวานมาก เเต่ละมุ้นลิ้นจริง สาธยายมาซะเยอะ วันนี้มีสูตรสปองค์เค้กชอคโกเเลตพร้อมวิปปิ้งครีมชอคโกเเลตมาฝาก ลองทำเเล้วอร่อยมาก เหมาะสำหรับคนชอบทานเค้กเนื้อนุ่ม ๆ ไม่หวานมาก เเละที่สำคัญสูตรนี้ไม่ใส่สารเสริมอีกด้วย
ชอคโกเเลตสปองค์เค้ก
ไข่ไก่เบอร์ 2 4 ฟอง
น้ำตาลสำหรับทำเค้ก 85 กรัม
นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งเค้ก 50 กรัม
ผงโกโก้ 10 กรัม
วิปปิ้งครีมชอคโกเเลต
วิปปิ้งครีม 400 มิลลิลิตร
milk chocolate or bitter chocolate 100 กรัม (ในสูตรใช้ bitter เเต่เเหม่มปรับใช้ milk chocolate)
ผงโกโก้ไว้โรยตกเเต่ง
วิธีทำ
ตอกไข่เเละใส่น้ำตาลลงในชามผสม ตีไข่พอเป็นฟองละเอียด
เตรียมน้ำร้อนประมาณ 60-70 องศาเซลเซียสไว้ในชามผสมอีกใบให้มีขนาดใหญ่กว่าชามไข่
พอน้ำร้อนได้ที่ยกชามไข่มาวางบนชามน้ำร้อน
ตีไข่ด้วย hand mixer ต่อไปเรื่อย ๆ จนอุณหภูมิของส่วนผสมไข่ได้ประมาณ 37 องศาเซลเซียส
(ถ้าไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ ก็ลองเอามือจุ่มส่วนผสมดู ถ้าพออุ่นก็ยกออกได้เเล้วค่ะ)
ยกชามผสมไข่ลงเเล้วตีด้วย hand mixer ต่อไปเรื่อย ๆ
จนส่วนผสมของไข่ข้นขึ้นจนได้เป็นลักษณะ ribbon stage คือสามารถลากส่วนผสมมาพับทบได้
หรือง่าย ๆ ก็ลองใช้ไม้จิ้มฟัน ถ้าไม้จิ้มฟันไม่ล้มบนส่วนผสมก็ไช้ได้เเล้วค่ะ)
เติมส่วนผสมของนมสด คนส่วนผสมอย่างเบามือให้เข้ากัน
จากนั้นเติมส่วนผสมของเเป้งเเละโกโก้ที่ร่อนรวมกัน ค่อย ๆ ตะล่อมอย่างเบามือ
เทส่วนผสมที่เข้ากันเเล้วลงในถาดที่ปูกระดาษไข
อบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียสประมาณ 15-20 นาที
เค้กสุกเเล้วก็นำมาคว่ำหน้าบนตะเเกรงรอให้เย็นค่ะ
เตรียมวิปปิ้งครีมชอคโกเเลต โดยนำชอคโกเเลตมาละลายบนน้ำร้อน ทิ้งไว้พออุ่น
ตีวิปปิ้งครีมจนข้นขึ้นสามารถลากทบได้ (ยังไม่เป็น soft peak)
เเล้วเติมชอคโกเเลตที่ละลาย (ระวังอย่าให้ร้อน) ตีต่อจนวิปปิ้งครีมตั้งยอด
ปอลิง ก่อนตีเเช่วิปปิ้งครีม ภาชนะ หัวตีให้เย็นจัด ขณะตีวางโถน้ำเเข็งรองก้นโถวิปปิ้งครีม เเล้วถ้าเป็นไปได้เปิดแอร์ทำจะดีมากค่ะ
มาถึงขั้นตอนการประกอบเค้ก ตัดเค้กเป็นสามชิ้นขนาดเท่า ๆ กัน
ปาดครีมในชั้นเค้กที่หนึ่ง ประกบตัวเค้กชั้นที่สอง ปาดครีมเเล้วสลับตัวเค้กกันต่อจนครบ
จากนั้นก็ปาดเค้กรอบตัวเค้ก ตกเเต่งด้านบนนิดหน่อย ตบท้ายด้วยโรยผงโกโก้ค่ะ
เเช่เย็นไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนมาตัดทาน
เสร็จเเล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ
No comments:
Post a Comment