Thursday, January 26, 2012

apple cake เวอร์ชั่นเพื่อนขอร้องให้ทำค่า

ของหวานในวันนี้เป็นออเดอร์จากเพื่อนสาวค่ะ  ประจวบเหมาะกับแอปเปิ้ลราคาไม่เเพง (ถ้าวัตถุดิบเเพงไม่ได้ทานหรอกนะ)  ฮ่า ฮ่า

สูตรนี้ได้จากลิงค์นี้ http://www.momswhothink.com
ส่วนผสมเเหม่มทำเเค่ครึ่งสูตร เเล้วก็มีการดัดแปลงสูตรนิดหน่อยตามใจคนทำ

ส่วนผสม
แอปเปิ้ล.................................. 2 ลูก
อบเชยป่น................... ........1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายขาว........ ........185 กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์......... 120 กรัม
ผงฟู......................................... 4 กรัม
เกลือ.................................... 1/2 ช้อนชา
น้ำมันพืช............................. 1/2 ถ้วยตวง
วานิลลา............................ 1 1/4 ช้อนชา
ไข่ไก่....................................... 2 ฟอง
น้ำส้ม..................................... 10 กรัม


,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,


ปอกเปลือกแอปเปิ้ล หั่นเป็นชิ้นค่า


Photobucket
Photobucket


คลุกแอปเปิ้ลกับน้ำตาลพอทั่ว (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) ตามด้วยอบเชยป่น พักไว้
ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ เกลือ เเละผงฟู เข้าด้วยกัน


ผสมน้ำมันพืช น้ำส้ม น้ำตาล เเละวานิลลาเข้าด้วยกัน จากนั้นผสมส่วนผสมเเห้งด้านบน คนผสมให้เข้ากัน เติมไข่ไก่ทีละฟอง คนผสมให้เข้ากัน


Photobucket


วางแอปเปิ้ลที่ฐานของพิมพ์ เติมส่วนผสมเค้ก เเล้วโปะหน้าด้วยแอปเปิ้ลอีกที 


Photobucket
Photobucket


อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 45 นาที


Photobucket
Photobucket

Wednesday, January 25, 2012

เค้กชิฟฟ่อนสังขยาใบเตย...pandan chiffon cake with pandan

วันนี้มีเค้กสไตล์ไทย ๆ มาฝากค่ะ เนื่องจากไปเรียนทำขนมชั้น เเล้วทนกลิ่นหอม ๆ ของใบเตยไม่ได้ เลยเกิดความคิดทำเค้กใบเตย เเต่จะราดหน้าเค้กด้วยครีมสดก็เหมือนไม่ใช่เค้กไทย ๆ เลยขอราดด้วยสังขยาใบเตยซะเลย


สูตรเนื้อเค้กเป็นชิฟฟอนเค้กใบเตยค่ะ  (18 cm)


ส่วนที่หนึ่ง
เเป้งเค้ก............................. 100 กรัม
ผงฟู............................... 1, 1/2 ช้อนชา
เกลือ................................. 1/4 ช้อนชา
ไข่เเดง.................................. 6 ฟอง
น้ำตาลทราย......................... 50 กรัม
น้ำใบเตย............................. 60 กรัม (ผสมสี)
น้ำมันพืช............................. 55 กรัม


ส่วนที่สอง
ไข่ขาว................................ 6 ฟอง
น้ำตาลทราย...................... 100 กรัม



ผสม ไข่เเดง น้ำตาลทราย เกลือ น้ำใบเตย เเละน้ำมันพืช ใช้ตะกร้อมือคนผสมให้เข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ เทลงในอ่างเเป้ง (ที่ร่อนเเล้ว ผสมกับผงฟู) คนจนส่วนผสมเข้ากันดี


ใส่ไข่ขาวลงในชามอีกใบ ตีให้เป็นฟอง ใส่น้ำตาลที่ละน้อย ตีจนตั้งยอด


ตักไข่ขาวทีละน้อย ผสมกับส่วนผสมเเรก ค่อย ๆ เเบ่งไข่ขาวใส่ทีละน้อย คนอย่างเบามือ เสร็จเเล้วเทลงพิมพ์ที่ทาไขมันเอาไว้ (รองด้วยกระดาษรองอีกชั้น) เกลี่ยหน้าให้เรียบ เคาะพิมพ์เพื่อไล่อากาศ



ส่วนผสมของสังขยาใบเตย


เเป้งสาลี.................................. 2 ช้อนโต๊ะ
เเป้งข้างโพด.......................... 4 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ.................................... 3 ถ้วยตวง
ใบเตยคั้นน้ำเข้มข้น................ 1-2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่เฉพาะไข่เเดง.................. 4 ฟอง
น้ำตาลทราย......................... 1/2 ถ้วย
เกลือป่น............................... 1/4 ช้อนชา



เเบ่งกะทิสองถ้วยใส่น้ำใบเตย ผสมแป้งสาลี เเป้งข้าวโพด ค่อย ๆ เติมหัวกะทิทีละน้อย คนให้เข้ากัน พยายามอย่าให้เเป้งเป็นเม็ด


ผสมกะทิหนึ่งถ้วยกับน้ำตาลทราย เกลือลงในชาม คนผสมให้ละลาย


ตีไข่เเดงให้เเตกนิดหน่อย เเล้วผสมแป้ง น้ำตาล ไข่เเดงลงไปในหม้อ ตั้งไฟอ่อน คนตลอดเวลาจนเเป้งสุก ยกลง วางหม้อสังขยาในชามน้ำเย็น จากนั้นนำมาปาดเค้กตามชอบค่ะ








 

ตกเเต่งเพิ่มเติมโรยหน้าด้วยเกล็ดมะพร้าวเเห้งค่ะ

Tuesday, January 24, 2012

strawberry mousse cake

ช่วงนี้ทำเค้กเเละมีสตอเบอรี่เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะหน่อย เพราะว่าตอนนี้สตอเบอรี่มีเยอะมากเเละราคาไม่เเพง   อยากทานเค้กเย็น ๆ หวาน ๆ เนียน ๆ นุ่ม ๆ ก็ต้องเป็นมูสเค้กเลยค่ะ  ได้รับเเรงบันดาลใจมาจากเเม่ปูเเห่งบล๊อกเเกงค์ เเต่สุดท้ายเเหม่มก็เอามาปรับสูตรเองอีกจนได้


ตัวเค้กวันนี้ที่ทำเป็นเค้กนมสด สูตรเดียวกับที่เคยทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ค่ะ  ทีนี้เรามาทำเนื้อมูส กับซอสสตอเบอรี่กันดีกว่า


เนื้อสตอเบอรี่ของที่ญี่ปุ่นหวานอร่อยมากอยู่เเล้ว  ต้องพยายามอย่าเติมน้ำตาลเยอะเพราะเดี๋ยวจะหวานเกินน่ะค่ะ  เริ่มต้นจากทำซอสสตอเบอรี่ก่อน 


ซอสสตอเบอรี่
สตอเบอรี่............................ 350 g
น้ำตาลทรายขาว................... 80 g
น้ำส้ม................................... 1/2 ถ้วย


วิธีทำซอสสตอเบอรี่
นำสตอเบอรี่หั่นผ่าครึ่ง  น้ำตาลทราย  น้ำส้ม ต้มรวมกัน (ไฟกลาง) ต้มจนน้ำสตอเบอรี่ออกมาเป็นสีเเดงเข้มเลยนะคะ จากนั้นกรองเอาน้ำสตอเบอรี่พักเอาไว้ก่อน  (ช้อนฟองออกด้วยก็ดีค่ะ เพราะเวลาทำเป็นเยลลี่เเล้วจะได้ไม่มีฟองอากาศ)




 
ได้น้ำสตอเบอรี่ประมาณถ้วยกว่าเลย

ขั้นตอนต่อไปทำเนื้อมูสค่ะ


ตีวิปครีม ขั้นตอนนี้เเหม่มเติมน้ำตาลลงไปประมาณหนึ่งในสี่ถ้วยตวงด้วย (กลัวไม่หวาน)  ตีจนพอเนียนนะคะ ไม่ต้องตีจนตั้งยอด เเม่ปูเเนะนำว่าไม่อย่างนั้นเนื้อมูสจะไม่เนียนค่ะ 


เตรียมเจลาตินหนึ่งช้อนโต๊ะ ละลายกะน้ำเย็นสามช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้จนเจลาตินพอง เสร็จเเล้วก็เอาไปละลายบนหม้อน้ำร้อนอีกที (ห้ามละลายโดยตรงนะคะ)  ทิ้งเจลาตินให้เย็น


จากนั้นนำสตอเบอรี่สดประมาณ 400 g ไปบดในเครื่องปั่นให้ละเอียด   นำสตอเบอรี่ที่บดละเอียดเเล้วลงไปต้มในหม้อพออุ่น ๆ เเล้วใส่เจลาตินที่เราเตรียมเอาไว้ลงไปผสมค่ะ   ทิ้งให้ส่วนผสมเย็น  เเล้วเอามาผสมกับวิปครีมที่ตีเอาไว้ตอนต้น




................................................................................................


ทีนี้มาถึงขั้นตอนประกอบค่ะ



 


ตอนอบเค้กตัวเค้กเเหม่มใช้พิมพ์ขนาดสิบห้าเซนนะคะ ส่วนตอนประกอบใช้สปริงฟอร์มถอดก้นได้ขนาดสิบแปดเซน  สไลด์เค้กเป็นสองชั้น วางชั้นเเรกลงไปก่อน จากนั้นโปะมูสทับลงไปค่ะ  วางเค้กชั้นที่สองเเล้วโปะมูสลงไปเกลี่ยให้ (พยายาม) เรียบ  เหลือพื้นที่ด้านบนก่อนถึงขอบพิมพ์เอาไว้หน่อยรอราดซอสสตอเบอรี่  เเหม่มเอาเข้าช่องฟรีซเลย มิเสียเเรงที่ซื้อตู้เย็นมีช่องฟรีซใหญ่ 




ทีนี่มาจัดการกับซอสสตอเบอรี่กันต่อ  เตรียมเจลาตินที่สัดส่วนเดิม วิธีเดิมรอให้เย็น  นำซอสสตอเบอรี่ขึ้นตั้งไฟพออุ่น ผสมกับเจลาตินที่เตรียมไว้  รอให้ซอสสตอเบอรี่เย็นก่อนราดบนหน้ามูสนะคะ
จัดการเอาเค้กออกจากช่องฟรีซ เเหม่มทิ้งเอาไว้ประมาณสองชั่วโมง พอหน้าตึง ๆ ก็ราดซอสเลยค่ะ





เป็นเค้กที่ทำนานสุดเลยค่ะ กว่าจะเสร็จก็ปาไปห้าชั่วโมงได้

Matcha chiffon cake

มีโอกาสทำเค้กไปให้เด็ก ๆ ในเเลบได้ลองชิมเค้กหลายครั้ง  เเต่ไม่เคยได้ทำเค้กชาเขียวเลยซักที  จนได้รับรีเควสจากเด็ก ๆ ว่าอยากลองทานเค้กชาเขียว (ฟรี) ของญี่ปุ่นบ้าง  อยากให้เเหม่มซํงทำ   เเหม่มซังได้โอกาสเลยลองค้นหาสูตรเค้กชิฟฟ่อนชาเขียวในอินเตอร์เนต  เจอสูตรของคุณตรีเลยลองเอามาฝึกฝีมือก่อน  สูตรนี้เเหม่มเอามาดัดเเปลงเล็กน้อย  พร้อมกับดัดแปลงวิธีทำนิดหน่อย  


ตอนเเรกอยากทำถั่วเเดงกวนเเต่หมดเเรงเสียก่อน  เลยทำได้เเค่ตัวเค้กพร้อมกับปาดวิปครีม  เพราะคิดภาพเอาว่าถ้าได้ทานเค้กคู่กับวิปครีมเเละถั่วเเดงกวนสไตล์ญี่ปุ่นต้องอร่อยเยี่ยมยอดเเน่ ๆ


ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้วาเลนไทน์  มีของเล่นมาให้ตกเเต่งหน้าเค้กเยอะเเยะ เเหม่มเลยสนุกเลยทีนี้  ไม่อยากให้หมดช่วงเทศกาลเลย เพราะซื้อของตกเเต่งหน้าเค้กเก๋ ๆ ได้ง่าย


สูตรชิฟฟ่อนเค้ก

ไข่ไก่............................................... 4 ฟอง  (เเยกไข่เเดงเเละไข่ขาว)
น้ำตาลป่น ส่วนที่หนึ่ง...................  40 กรัม
น้ำตาลป่น ส่วนที่สอง...................  90 กรัม
น้ำมันพืช......................................  60 มิลลิลิตร
ผงชาเขียว .................................... 4 ช้อนชา
น้ำอุ่นละลายชาเขียว .................... 50 มิลลิลิตร
เเป้งเค้ก ...................................... 100 กรัม
เบกกิ้งโซดา ................................... 1 ช้อนชา
วานิลลา.........................................  1  ช้อนชา
เกลือ............................................... 1 ช้อนชา



ร่อนเเป้ง  เกลือป่น  เบคกิ้งโซดา  รวมกันประมาณสองรอบ 


ตีไข่เเดงให้เข้ากัน  ละลายชาเขียวในน้ำอุ่น จากนั้นผสมชาเขียวเเละน้ำมันลงในส่วนของไข่เเดง วานิิลลา คนส่วนผสมให้เข้ากัน


ผสมส่วนผสมของเหลวด้านบนลงในส่วนผสมของเเป้ง คนให้เข้ากัน


จากนั้นตีไข่ขาวให้ขึ้นฟองเล็กน้ัอย ทะยอยเติมน้ำตาลจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน  เเบ่งส่วนผสมของไข่ขาวประมาณสามส่วน  ค่อย ๆ ทะยอยใส่ในชาเขียว  คนเเบบตะล่อม


อบที่ 180 องศาเซลเซียส  ประมาณ 30-35 นาที


ตีวิปครีม  ตกเเต่งตามใจฉันเลยยยย



 

เม็ดสีฟ้า ๆ เป็นเม็ดชอคโกเเลตค่ะ

gateau chocolate ガトーショコラ

เค้กก้อนนี้จริง ๆ ทำมานานมากกกก (จนลืมไปเเล้วว่าทำเมื่อไหร่)  ที่ทำเค้กก้อนนี้เพราะว่าเด็กน้อยในเเลบเรียกร้องอยากกินเค้กชอคโกเเลตตตต (เหมือนเดิม)  เลยเปิดหนังสือที่มีอยู่ในบ้านเเล้วค้นพบว่า เราซื้อหนังสือเค้กมาจนทำตามไม่ทันเเล้วนี่  เเต่ทุกครั้งที่เดินผ่านร้านหนังสือทีำไร เหมือนมีมนต์สะกดให้ซื้อทุกที เอ๊ะ คล้าย ๆ กับตอนเดินผ่านร้านรองเท้าเลยเนอะ ฮ่า ฮ่า




วกมาเข้าเรื่องเค้ก เค้กก้อนนี้ชื่อว่า gateau chocolate ガトーショコラ สูตรนี้ได้มาจากหนังสือน่ารัก ๆ (เเต่ราคาไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ หุ หุ) เค้กกลม ๆ หกสิบชนิด (เเปลไทยเองเอง)  ของคุณซาซากิ ยูนะ  เล่มนี้รวมเค้กกลมทุกชนิดขนาดโดยปกติ 15 ซม. ไปจนถึงเค้กกลม ๆ เล็ก ๆ พอดีคำ เเถมมีของหวานน่ารัก ๆ สไตล์ญี่ปุ่น

Photobucket



ส่วนตัวเค้ก
ชอคโกเเลตชนิดหวาน................... 110 g
เนยสดชนิดจืด................................. 50 g
ไข่เเดง............................................. 2 ฟอง
เเป้งสาลี.......................................... 15 g

ส่วนเมอเเรงค์
ไข่ขาว...........................................  2 ฟอง
น้ำตาลทรายป่น.............................. 40 g


ละลายชอคโกเเลตพร้อมเนย จากนั้นทิ้งพอให้อุ่น

ตีไข่ขาวเเละน้ำตาลทรายจนตั้งยอดอ่อน (ส่วนของเมอเเรงค์)

ผสมไข่เเดงให้เข้ากันกับส่วนของชอคโกเเลต  เติมเเป้ง  จากนั้นค่อย ๆ ผสมส่วนของเมอเเรงค์ลงในส่วนของชอคโกเเลต ค่อย ๆ เเบ่งผสม

เทส่วนผสมลงพิมพ์ เคาะพิมพ์เบา ๆ ประมาณสองครั้ง

อบที่อุณหภูมิ 160 C 35-40 นาที


Photobucket


โรยน้ำตาลไอซิ่งก็เสร็จเเล้วค่า Wink

Thai tea chiffon cake เค้กชาไทยนุ่ม ๆ

อยู่ดี ๆ เกิดอาการอยากดื่มชาเย็นมาก ๆ นึกถึงชาเย็นเเบบไทย ๆ ใส่นม น้ำตาลน้อย ๆ ชอบเเบบมัน ๆ มากกว่าหวาน ๆ เติมน้ำเเข็งลงไปเย็น ๆ โห ชื่นใจ พอดีพี่ชายคิ้วต่ำของเรากลับไทย เลยฝากซื้อชาไทยซะหน่อย เเต่ต้องกำชับพร้อมมีรูปถ่ายว่าเอายี่ห้อนี้นะ เค้าบอกมาว่าหอมอร่อย เลยได้มาเป็นกระปุกเลย เดี๋ยวนี้สินค้าไทยพัฒนาไปเยอะ ชาไทยก็ทำเเบบพร้อมชงเป็นซอง ๆ ไม่ต้องมานั่งกรอง สะดวกดี

Photobucket

ชาไทยตรามือ

อานิสงค์ของการชงชาเย็นก็เลยได้เค้กชาไทยเเถมมาด้วย เเต่กว่าจะได้เค้กนี้ก็เล่นเอาเหงื่อตก เหตุเพราะตอนทำสติสตังไม่ค่อยอยู่กะเนื้อกะตัว กว่าจะทำเค้กนี้เสร็จก็หมดไข่ไปหมดบ้าน เพราะว่าผสมไข่ขาวกับน้ำมันพืชสลับกันซะสองสามรอบ ประสบการณ์นี้สอนให้รู้ว่า ถ้ารู้ตัวว่าไม่มีสติอย่าทำต่อเพราะว่าจะหมดตังค์ เอวัง

เนื้อเค้กที่เเหม่มเลือกทำเป็นสูตรชิฟฟ่อนเค้กเเบบเดียวกับชิฟฟ่อนเค้กชาเขียวที่เคยทำ เเต่เปลี่ยนจากชาเขียวเป็นชาไทย ส่วนชาไทยราดหน้าเค้กใช้สูตรของเเม่สลิ่มเค้กชาไทยหน้านิ่มค่ะ เเหม่มลดน้ำตาลลงนิดหน่อยเพราะว่าส่วนของชาไทยที่ราดหน้าเค้กหวานมาก เลยลดปริมาณน้ำตาลในตัวเค้กลงนิดหน่อยค่ะ


สูตรชิฟฟ่อนชาไทย (เต็มสูตรสำหรับพิมพ์ 18 cm ค่ะ)
1. ไข่ไก่.................................................. 4 ฟอง (เเยกไข่เเดงเเละไข่ขาว)
2. น้ำตาลป่น ส่วนที่หนึ่ง........................... 40 กรัม
3. น้ำตาลป่น ส่วนที่สอง........................... 70 กรัม
4. น้ำมันคาโนล่า..................................... 60 มิลลิลิตร
5. ผงชาไทย 2 ช้อนโต๊ะ ชงกับน้ำร้อน เเล้วตวงให้ได้น้ำชาไทยประมาณ 50 มิลลิลิตร (ขอเเบบเข้ม ๆ ค่ะ) ุ
6. เเป้งเค้ก............................................ 100 กรัม
7. เบกกิ้งโซดา....................................... 1 ช้อนชา
8. เกลือ................................................. 1 ช้อนชา



ขั้นตอนที่หนึ่ง
Photobucket

ชาไทยชงเเบบเข้ม ๆ เลยนะคะ

ร่อนเเป้ง เกลือป่น เบคกิ้งโซดา รวมกันประมาณสองรอบพักเอาไว้ก่อน ตีไข่เเดงให้เข้ากัน ผสมน้ำชาไทย (ที่เย็น) เเละน้ำมันลงในส่วนของไข่เเดง คนส่วนผสมให้เข้ากัน ผสมน้ำตาลป่นส่วนที่หนึ่งลงในส่วนผสมของแป้ง ผสมให้เข้ากัน ทำหลุมตรงกลาง เทส่วนผสมของไข่ลงในส่วนผสมของเเป้ง ผสมให้เข้ากัน


Photobucket



ขั้นตอนที่สอง
ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟองเล็กน้ัอย ทะยอยเติมน้ำตาลส่วนที่สอง ตีต่อด้วยความเร็วสูงจนได้ firm peak คือไข่ขาวเลยจุดตั้งยอดอ่อน เเต่ยังไม่ตั้งยอดเเข็ง (เมื่อตั้งยอดอ่อนตีต่ออีกเเป๊บนึง ก่อนตั้งยอดเเข็งค่ะ) ตีต่อด้วยความเร็วต่ำเพื่อตัดฟองอากาศหนึ่งนาที

เเบ่งส่วนผสมของไข่ขาวประมาณสามส่วน ค่อย ๆ ทะยอยใส่ในส่วนผสมของไข่เเดง ค่อย ๆ ตะล่อมอย่างเบามือ

Photobucket



อบที่ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-35 นาที วิธีเชคว่าเค้กสุกเเล้ว ก็เเค่เอานิ้วลองกด เนื้อเค้กจะสปริงตัวกลับค่ะ

ส่วนของชาไทยที่เอาไว้ราดหน้าเค้ก (สูตรจากคุณจุ๋ม เเม่สลิ่มค่ะ)

(ส่วนที่ 1) 
ผงวุ้น...................... 3/4 ช้อนชา
วิธีการตวงคือ 1/2 ช้อนชา + 1/4 ช้อนชา ผงชาไทยที่เหลือจากชงสำหรับทำตัวเค้กเมื่อกี้ และใส่เพิ่มไปอีก 3 ช้อนโต๊ะ 
น้ำร้อนจัด............... 1 ถ้วยตวงของเหลว 
นมสด.................... 100 กรัม 
น้ำตาลทราย ..........100 กรัม 
วิปปิ้งครีม............... 150 กรัม

(ส่วนที่ 2) 
แป้งข้าวโพด............ 30 กรัม 
นมข้นจืด ................110 กรัม

(ส่วนที่ 3) 
เนยสด (รสจืด)........ 100 กรัม


ต้มน้ำร้อนจัด 1 ถ้วยตวง แล้วเอาผงชาไทยที่เหลือจากการทำตัวเค้กเมื่อกี้ใส่ชามหรือภาชนะอะไรก็ได้ ตามด้วยผงชาไทยเพิ่มไปอีกประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำร้อนจัดลงไป ทิ้งให้ผงชาออกสีและกลิ่นจัด ๆ ชั่งให้ได้ 150 กรัม เเหม่มตวงชาไทยใส่กะทะเทฟล่อนที่เอาไว้ทอดเลยค่ะ ตามด้วยส่วนผสมที่เหลือของส่วนที่ 1 นะคะ ผงวุ้น นมสด น้ำตาลทราย วิปปิ้งครีม คนรวมให้เข้ากัน

ส่วนที่ 2 ผสมนมข้นจืดและแป้งข้าวโพดให้เข้ากัน เเหม่มใส่ถุงพลาสติกเเล้วเขย่าให้เข้ากัน ผสมอย่าให้แป้งเป็นก้อน ตอนเเรกหานมข้นจืดไม่ได้ค่ะ เพราะไม่รู้ว่าหน้าตาของที่นี่เป็นอย่างไร สุดท้ายก็หาเจอจนได้วางขายใกล้ ๆ กับนมข้นหวาน ที่นี่นมข้นหวานเอามาจิ้มทานกับสตอเบอร์รี่ อร่อยดีค่ะ เนยสดหั่นชิ้นเล็ก ๆ ไว้นะคะ


นำหม้อชาไทยและส่วนผสมที่เราเทรวมกันไว้ตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง ๆ ค่ะ คุณจุ๋มอธิบายเอาไว้ว่าผงวุ้นจะละลายได้ดีในน้ำเดือดจัดไฟแรง ไม่อย่างนั้นผงวุ้นละลายไม่หมดจะเห็นเป็นเกล็ด ๆ และมีผลต่อการเซ็ทตัวของหน้าขนม แต่หากใช้ไฟแรงไปเดี๋ยวจะไหม้เสียก่อน ใช้ไฟกลาง ๆ เเละใช้ตะกร้อมือคน ๆ ตลอดให้เดือดสักพัก อย่าเทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดลงไปขณะเดือดนะคะ (ไม่อย่างนั้นเเป้งสุกเป็นก้อนเเน่ค่ะ)

พอเดือดสักพัก ให้ลดไฟลง รอส่วนผสมอุ่น (ไม่ร้อนจนเดือด) จึงค่อยเทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดไว้ (เขย่าถุงอีกครั้งก่อนเท) แล้วคนให้เข้ากัน ค่อยเปิดไฟต่อ


ตอนนี้ให้ใช้ไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ ส่วนผสมจะเริ่มข้นขึ้น อย่าใช้ไฟแรงไม่อย่างนั้นไหม้เเน่นอนค่ะ คนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมข้นหนืด เริ่มเห็นรอยตะกร้อมือในหม้อ ยกลงจากเตา ใส่เนยสดค่ะ คน ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ส่วนผสมเย็นลง รอยตะกร้อมือจะชัดขึ้น ส่วนผสมจะข้นขึ้น ราดแล้วหน้าเค้กจะไม่ไหลเลอะเทอะ เวลาคนให้คนช้า ๆ เพื่อไม่ให้อากาศเข้ามาก หากคนเร็วอากาศจะเข้ามาก ทำให้หน้าเค้กมีฟองอากาศค่ะ (เทคนิคจากคุณจุ๋มค่ะ)

Photobucket

ส่วนผสมเริ่มข้น เห็นรอยตะกร้อมือค่ะ

จากนั้นเตรียมตัวนำไปราดเค้กค่ะ สไลด์เค้กออกเป็นสามชั้นค่ะ วางเค้กลงบนแผ่นรองเค้ก และวางบนก้นถาดหรือภาชนะแบน ๆ อีกที ราดเค้กชั้นเเรกลงไปก่อน จากนั้นวางเค้กชั้นที่ 2 ลงไป ราดทับอีกครั้ง วางเค้กชั้นสุดท้ายลงไป ส่วนที่เหลือทั้งหมด ราดด้านบนและเอียงให้ไหลลงมาที่ขอบเค้กค่ะ กระแทกเบา ๆ อย่าเเรง เสร็จเเล้วก็เอาใส่ตู้เย็นทิ้งเอาไว้เพื่อให้เซทตัว

กว่าจะทำเค้กก้อนนี้เสร็จเล่นเอาเหงื่อตก เพราะว่าส่วนผสมเททิ้งเยอะมาก ๆๆๆๆ เนื่องจากอาการไร้สติจากที่บอกข้างต้น พอมาถึงตอนราดเค้ก เเหม่มทำได้เลอะเทอะมาก (แอบฮา) เค้กนี้เอาไปให้น้อง ๆ ที่เเลบลองชิม เพราะเด็ก ๆ บอกไม่เคยลองชาไทยมาก่อน คนชิมชมว่าอร่อยมาก คนทำก็ยิ้มเเก้มปริค่ะ สรุปเค้กนี้อร่อย หอมชาไทยมาก ๆ




Photobucket
Photobucket

Matcha mousse cake

สูตรชิฟฟ่อนเค้กชาเขียว (เต็มสูตรสำหรับพิมพ์ 18 cm ค่ะ)

1. ไข่ไก่.................................... 4 ฟอง (เเยกไข่เเดงเเละไข่ขาว)
2. น้ำตาลป่น ส่วนที่หนึ่ง .........40 กรัม
3. น้ำตาลป่น ส่วนที่สอง......... 90 กรัม
4. น้ำมันคาโนล่า.................... 60 มิลลิลิตร
5. ผงชาเขียว............................ 4 ช้อนชา
6. น้ำอุ่นละลายชาเขียว........... 50 มิลลิลิตร
7. เเป้งเค้ก.............................. 100 กรัม
8. เบกกิ้งโซดา.......................... 1 ช้อนชา
9. วานิลลา................................ 1 ช้อนชา
10. เกลือ................................... 1 ช้อนชา


ร่อนเเป้ง เกลือป่น เบคกิ้งโซดา รวมกันประมาณสองรอบ ตีไข่เเดงให้เข้ากัน

ละลายชาเขียวในน้ำอุ่น จากนั้นผสมชาเขียวเเละน้ำมันลงในส่วนของไข่เเดง วานิิลลา คนส่วนผสมให้เข้ากัน

ผสมส่วนผสมของเหลวด้านบนลงในส่วนผสมของเเป้ง คนให้เข้ากัน

ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟองเล็กน้ัอย ทะยอยเติมน้ำตาลจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน

เเบ่งส่วนผสมของไข่ขาวประมาณสามส่วน ค่อย ๆ ทะยอยใส่ในชาเขียว คนเเบบตะล่อม

อบที่ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-35 นาที


มูสเค้กชาเขียว

1. ผงชาเขียว................................ 8 กรัม
2. น้ำตาล.................................... 50 กรัม (เพิ่มลดความหวานได้ตามชอบค่ะ)
3. ไข่แดง....................................... 2 ฟอง
4. นมสด....................................... 50 ซีซี
5. เจลาตินชนิดเเ่ผ่นสี่เเผ่น (เเช่น้ำให้นิ่มก่อนใช้ค่ะ) ถ้าเป็นเเบบผงก็ประมาณ 5 กรัมค่ะ
6. วิปปิ้งครีม................................ 200 กรัม


นำไข่เเดงสองฟองมาตีผสมกับน้ำตาลจนไข่ขึ้นฟู เติมนมสดเเละผสมให้เข้ากัน


Photobucket


Photobucket



นำส่วนผสมไปตั้งไฟอ่อน ๆ คอยคนเรื่อย ๆ (ระวังอย่าให้ไข่จับตัวเป็นก้อน) จนส่วนผสมเริ่มข้น


จากนั้นปิดไฟเเล้วเติมเจลาตินที่เเช่น้ำจนพองตัวเเล้ว คนส่วนผสมให้เข้ากัน


Photobucket
Photobucket


ละลายชาเขียวในน้ำอุ่นเเล้วนำมาผสมกับส่วนผสมของไข่ คนให้เข้ากัน พักให้เย็นค่ะ


Photobucket


ตีวิปครีมจนตั้งยอดอ่อน (อย่าตีจนเเข็ง ไม่อย่างนั้นเนื้อมูสจะไม่เนียน)


เติมส่วนผสมของไข่ (ที่พักให้เย็น) ผสมให้เข้ากัน


Photobucket


มาถึงขั้นตอนการประกอบตัวเค้ก นำชิฟฟ่อนเค้กชาเขียววางเป็นฐานรอง จากนั้นเทมูสเค้กราดลงไปบนตัวเค้ก เเช่ตู้เย็นประมาณสามชั่วโมงค่ะ โรยหน้าด้วยผงชาเขียวอีกครั้ง พร้อมเสิร์ฟค่ะ

 
ปอลอ อย่าโรยผงชาเขียวเยอะนะคะ เดี๋ยวขม



Photobucket
Photobucket

strawberry milk cake

ตอนนี้หน้าหนาวของญี่ปุ่นหนาวมาก เรียกได้ว่าหนาวสุดที่เเหม่มมาอยู่ที่นี่เลย  ภาระกิจที่คิดจะทำตอนเเรกคือเค้กชิฟฟ่อนชาเขียว สอดไส้ด้วยครีมถั่วเเดงกวน เเต่พอออกมาซื้อของที่ซุปเปอร์เเถวบ้าน เจอสตอเบอรี่สีเเดงสด ลูกโตออกมาวางโปรโมทในราคาเพียง 398 เยน เเละนี่คือเหตุผลที่ต้องพักยกเค้กชิฟฟอนชาเขียวเอาไว้ก่อน เค้กสูตรนี้เเหม่มเคยลองทำมาหลายทีเเล้ว เนื้อเค้กจะหอม นุ่ม เบา ๆ เหมาะกับการทานคู่กับวิปปิ้งครีมเเละสตอเบอรี่หวาน ๆ ของญี่ปุ่นยิ่งนัก

สูตรนี้ได้มาจากพันทิพเป็นสูตรของคุณตรีค่ะ (15 cm)

ตัวเค้ก
แป้งเค้ก........ 62.5 กรัม
ผงฟู .................1/2 ช้อนชา
เนยสดจืด .........1/8 ถ้วย
นมสด ...............1ช้อนโต๊ะ
วิปปิ้งครีม......... 2 ช้อนโต๊ะ
วานิลลา.......... 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลป่น......... 80 กรัม
ไข่ไก่ทั้งฟอง..... 2 ฟองใหญ่
ไข่เเดง.............. 1 ฟองใหญ่
เกลือ................ 1/8 ช้อนชา

ขั้นตอนเเรก ร่อนส่วนผสมเเห้งรวมกันเอาไว้ก่อน

จากนั้นนำเนยสดละลายในไมโครเวฟเเล้วพักเอาไว้ (ระวังเเข็งนะคะ เเหม่มเอาวางไว้บนเตาอบเลย ตอนที่วอร์มเตา เพราะว่าตอนนี้อากาศที่นี่หนาวมากวางทิ้งเอาไว้รับรองคืนตัวเเน่นอน)

ตีไข่เป็นฟองละเอียดปานกลาง ค่อย ๆ เติมน้ำตาลป่นทีละน้อย ตีต่อด้วยความเร็วสูงจนเป็นริ้วรอย ขาวนวล




เติมเเป้งลงในส่วนผสมไข่ที่ตี เเล้ว ค่อย ๆ ปรับสปีดต่ำสุดตีผสมให้เข้ากัน ใช้เวลาเเป๊บเดียวนะคะ เติมวานิลลาในส่วนผสมของ นมสด เนยเเละวิปปิ้งครีมที่เราละลายไว้ตอนเเรก จากนั้นนำส่วนผสมนี้เติมลงในส่วนของส่วนผสมไข่เเละเเป้ง ส่งอบที่ 180 องศาเซลเซียสประมาณ 20-25 นาทีค่ะ

ตีวิปปิ้งครีมกันต่อค่ะ วันนี้ได้วิปปิ้งครีมลดราคามา ตีจนตั้งยอดเลยนะคะ





เเหม่มได้ของเล่นมาใหม่จากห้างโซโก้ ราคา่ไม่เเพงเป็นฐานรองเค้ก หน้าตาอาจเหมือนของเด็กเล่นไปหน่อย เเต่ใช้งานได้ดีเลยทีเดียว





จัดการเเต่งเค้กตามใจชอบเลยค่ะ งานนี้ขอปาดเค้กเเบ่งชั้นสลัยสตอเบอรี่หน่อย เวลากัดจะได้ได้รสชาติของสตอเบอรี่ถึงสองชั้น





ปาด ๆ โปะ ๆ กันตามใจชอบ ไม่เน้นสวยงามค่ะ (เพราะฝีมือด้อย) ทานกันเองในหมู่เพื่อน ๆ ก็เรียบได้เท่าที่เห็น




เเจกจ่ายกันอ้วนไปเลย

chocolate mousse cake

ชอคโกเเลตมูสเค้กก้อนนี้เป็นภาคต่อของชอคโกเเลตเค้กก้อนที่เเล้ว กะว่า ๆๆๆ หลายหนที่จะทำ เเต่มีเรื่องด่วนให้ไม่ได้ทำซักที เพราะมูสเค้กเป็นเค้กที่ค่อนข้างใช้เวลา กว่าจะอบเค้ก ทำตัวมูสเเล้วต้องรอให้เค้กเซ็ทตัวอีก อย่างน้อยต้องเผื่อเวลาเอาไว้ซักครึ่งวัน

สูตรมูสเค้กนี้มาจากหนังสือ Marui cake recipe 60 แปลเป็นไทยก็เค้กกลม ๆ 60 สูตร ของ คุณซาซากิ ยูนะ เนื้อเค้กเป็นสปองค์เค้กสไตล์ญี่ปุ่น

สูตรชอคโกเเลตสปองค์เค้ก (สำหรับพิมพ์ 15 cm)

ไข่ไก่............. 2 ฟอง

น้ำตาล......... 65 g

เเป้งสาีลี .......50 g

โกโก้ผง......... 10 g

เนยสด ............20 g (ละลายในไมโครเวฟ)

วิธีทำเค้กชอคโกเเลต

Photobucket

ตีไข่กับน้ำตาลในชามสเเตนเลสจนขึ้นฟูเป็นฟอง

เติมน้ำอุ่นประมาณ 60-70 องศาเซลเซียสในชามสเเตนเลสใบใหญ่ นำชามไข่มาวางบนชามน้ำอุ่น (อย่าวางชามไข่บนน้ำร้อนจัด ไม่อย่างนั้นไข่สุกเเน่ ๆ ค่ะ) อุณหภูมิของไข่ประมาณอุณหภูมิร่างกาย ตีต่อด้วยความเร็วสูงประมาณ 5-6 นาทีจนเป็นริบบ้อนสเตท เชคง่าย ๆ ด้วยไม้จิ้มฟัน ถ้าตั้งได้ไม่ล้มก็เเปลว่าไข่ได้ที่เเล้ว

Photobucket

ร่อนส่วนผสมของโกโก้ เเละเเป้งเหนือส่วนผสมของไข่ เเบ่งผสมประมาณสองรอบ ค่อย ๆ ตะล่อมอย่างเบามือให้ส่วนผสมเข้ากัน

เเบ่งส่วนผสมด้านบนออกมาประมาณหนึ่งถ้วยตวง ผสมกับเนยอุ่นละลาย (เนยอุ่น ๆ ทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี) ผสมให้เข้ากัน เเล้วเทกลับลงผสมในส่วนผสมด้านบน ตะล่อมผสมให้เข้ากัน

รองพิมพ์ด้วยกระดาษไข เเละวอร์มเตาอบที่ 180 องศาเซลเซียส เทส่วนผสมลงในพิมพ์ เคาะพิมพ์ก่อนนำเข้าอบเพื่อไล่ฟองอากาศ อบประมาณ 30 นาที

ส่วนผสมมูสชอคโกเเลต

ส่วนที่หนึ่ง

ชอคโกเเลตชนิดหวาน..... 140 g

วิปปิ้งครีม........................ 120 g

gelatin................................. 6 g (เเหม่มใช้ชนิดเเผ่นห้าเเผ่น ละลายน้ำให้พองตัวก่อนใช้)


ส่วนที่สอง

วิปปิ้งครีม....................... 100 g

น้ำตาลทรายป่น............... 60 g

วิธีทำมูสชอคโกเเลต

Photobucket
Photobucket

นำส่วนผสมที่หนึ่งมาผสมในชามสเเตนเลส นำไปละลายโดยน้ำเดือด ไม่ละลายโดยตรงบนไฟ เมื่อส่วนผสมละลาย เติมเจลาตินที่พองตัวเเล้ว คนส่วนผสมให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็น

นำส่วนผสมที่สองตีให้วิปปิ้งครีมตั้งยอดอ่อน (ถ้าตั้งยอดเเข็งเนื้อมูสจะไม่เนียน)
เติมส่วนผสมที่หนึ่งที่เย็นตัวเเล้ว ลงในวิปปิ้งครีม ผสมให้เข้ากัน

มาถึงวิธีประกอบเค้ก

ตัดเเบ่งเค้กออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน จากนั้นวางเค้กส่วนที่หนึ่งในพิมพ์ถอดก้นได้ขนาดสิบเเปดเซนติเมตร เทมูสชอคโกเเลต ทิ้งให้มูสเซทตัวในตู้เย็น เเล้วค่อยวางเค้กชั้นที่สอง เทมูสที่เหลือทับลงไป สุดท้ายเเช่เพื่อให้มูสเซทตัวในตู้เย็นค่ะ

Photobucket

Photobucket

เเต่งตัวโดยโรยผงโกโก้เล็กน้อย