Friday, July 15, 2011

เค้กลูกตาล

แรงบันดาลใจครั้งเเรก เมื่อตอนกลับไทยคราวที่เเล้วตอนไปเที่ยวบางเเสน นั่งชิว ๆ ทานอาหารตอนเช้ากับเพื่อนที่โรงเเรม อาหารเช้าน้่อยมาก ไม่ิอิ่มเลย (ทั้ง ๆ ที่คิดว่ากะเพาะเราก็เล็กนะ ฮา) เลยจัดหนักสั่งเค้กที่มีอยู่ในตู้กันมาลองชิม ผลโหวตเค้กลูกตาลอร่อยมาก ๆ เกิดไอเดียว่าผลไม้ไทย ๆ นี่ลองเอามาทำเค้กก็เข้ากันดี ด้วยความที่เนื้อลูกตาลมีความอร่ิอยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถ้าได้มาทานกับเค้กนิ่ม ๆ คงอร่อยมากทีเดียว

ยิ่งช่วงนี้เเหม่มเกิดนึก คึก ซื้อหนังสือเบเกอรี่ของที่ญี่ปุ่นมาสะสมเป็นงานอดิเรก เหตุเพราะหลงใหลในเค้กสไตล์ญี่ปุ่นมาก ๆ เเปลกดีที่ร้านเค้กที่นี่ทานร้านไหน ยังไม่เคยเจอว่าไม่อร่อย

สูตรเค้กที่เลือกมาวันนี้ เป็นเนื้อสปองค์เค้ก จากหนังสือชื่อว่า Marui cake recipe 60 ของ Sasaki Yuna เนื้อเค้กสไตล์ญี่ปุ่น ตามร้านที่ขายเค้กทั่วไปค่ะ ส่วนเนื้อลูกตาลกระป๋อง นางเอกของเค้กวันนี้ก็ได้มาจากร้านขายของไทยเเถวบ้าน


สูตรสปองค์เค้กสำหรับพิมพ์ 15 cm

ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำตาลป่น 60 กรัม
เเป้งเค้ก 60 กรัม
นมสด 5 กรัม
เนยจืด 20 กรัม



นำเนยจืดไปละลายด้วยไมโครเวฟจากนั้นทิ้งพักไว้ให้เย็น ตีไข่ไก่พอเป็นฟองค่ะ เเล้วค่อย ๆ เติมน้ำตาลเเล้วตีไปเรื่อย ๆ ด้วยสปีดสูงสุดจนข้น สามารถพับทบโดยใช้หัวตีลากเป็นเลขเเปดได้ หรือวิธีง่าย ๆ ก็ปักไม้จิ้มฟันได้ไม่ล้ม ผสมเเป้งเค้กที่ร่อนเเล้วกับไข่ไก่ที่ตีเเล้ว เเบ่งผสมประมาณสองครั้งค่อย ๆ ตะล่อมจนเข้ากันดี

เนยจืดที่เย็นมาผสมกับนมสด จากนั้นผสมลงในส่วนของไข่ไก่เเละเเป้ง ตะล่อมให้เข้ากันค่ะ เทใส่พิมพ์ที่ทาเนยรองด้วยกระดาษไขเเล้ว หลังเทส่วนผสมก่อนเข้าอบ เคาะกับโต๊ะซักสองสามครั้งไล่ฟองอากาศ อบที่ 180 องศาเซลเซียสประมาณ 35-40 นาที





ช้ำใจนิดหน่อยตรงที่วันนี้ตีครีมได้ไม่ดีเท่าไหร่ เหลวไปหน่อย ยิ่งอากาศช่วงนี้เริ่มร้อน ไม่เป็นใจให้ทำเค้กหน้าวิปครีมเลยจริง ๆ เเต่เนื้อเค้กอร่อย ฟู ๆ นิ่ม ๆ ทานคู่กับลูกตาลยิ่งอร่อยโฮก

Thai tea chiffon cake เค้กชาไทยนุ่ม ๆ

ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนมาก ๆ เเหม่มเกิดอาการอยากดื่มชาเย็นมาก ๆ นึกถึงชาเย็นเเบบไทย ๆ ใส่นม น้ำตาลน้อย ๆ ชอบเเบบมัน ๆ มากกว่าหวาน ๆ เติมน้ำเเข็งลงไปเย็น ๆ โห ชื่นใจ พอดีพี่ชายคิ้วต่ำของเรากลับไทย เลยฝากซื้อชาไทยซะหน่อย เเต่ต้องกำชับพร้อมมีรูปถ่ายว่าเอายี่ห้อนี้นะ เค้าบอกมาว่าหอมอร่อย เลยได้มาเป็นกระปุกเลย เดี๋ยวนี้สินค้าไทยพัฒนาไปเยอะ ชาไทยก็ทำเเบบพร้อมชงเป็นซอง ๆ ไม่ต้องมานั่งกรอง สะดวกดี
Photobucket 
ชาไทยตรามือ

อานิสงค์ของการชงชาเย็นก็เลยได้เค้กชาไทยเเถมมาด้วย เเต่กว่าจะได้เค้กนี้ก็เล่นเอาเหงื่อตก เหตุเพราะตอนทำสติสตังไม่ค่อยอยู่กะเนื้อกะตัว กว่าจะทำเค้กนี้เสร็จก็หมดไข่ไปหมดบ้าน เพราะว่าผสมไข่ขาวกับน้ำมันพืชสลับกันซะสองสามรอบ ประสบการณ์นี้สอนให้รู้ว่า ถ้ารู้ตัวว่าไม่มีสติอย่าทำต่อเพราะว่าจะหมดตังค์ เอวัง
เนื้อเค้กที่เเหม่มเลือกทำเป็นสูตรชิฟฟ่อนเค้กเเบบเดียวกับชาเขียว เเต่เปลี่ยนจากชาเขียวเป็นชาไทย ส่วนชาไทยราดหน้าเค้กใช้สูตรของเเม่สลิ่มเค้กชาไทยหน้านิ่มค่ะ เเหม่มลดน้ำตาลลงนิดหน่อยเพราะว่าส่วนของชาไทยที่ราดหน้าเค้กหวานมาก เลยลดปริมาณน้ำตาลในตัวเค้กลงนิดหน่อยค่ะ

สูตรชิฟฟ่อนชาไทย (เต็มสูตรสำหรับพิมพ์ 18 cm ค่ะ)
1. ไข่ไก่ 4 ฟอง (เเยกไข่เเดงเเละไข่ขาว)
2. น้ำตาลป่น ส่วนที่หนึ่ง 40 กรัม
3. น้ำตาลป่น ส่วนที่สอง 70 กรัม
4. น้ำมันคาโนล่า 60 มิลลิลิตร
5. ผงชาไทย 2 ช้อนโต๊ะ ชงกับน้ำร้อน เเล้วตวงให้ได้น้ำชาไทยประมาณ 50 มิลลิลิตร (ขอเเบบเข้ม ๆ ค่ะ)
ุ6. เเป้งเค้ก 100 กรัม
7. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
8. เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
ขั้นตอนที่หนึ่ง
Photobucket 
ชาไทยชงเเบบเข้ม ๆ เลยนะคะ

ร่อนเเป้ง เกลือป่น เบคกิ้งโซดา รวมกันประมาณสองรอบพักเอาไว้ก่อน
ตีไข่เเดงให้เข้ากัน ผสมน้ำชาไทย (ที่เย็น) เเละน้ำมันลงในส่วนของไข่เเดง คนส่วนผสมให้เข้ากัน
ผสมน้ำตาลป่นส่วนที่หนึ่งลงในส่วนผสมของแป้ง ผสมให้เข้ากัน ทำหลุมตรงกลาง เทส่วนผสมของไข่ลงในส่วนผสมของเเป้ง ผสมให้เข้ากัน

Photobucket

ขั้นตอนที่สอง
ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟองเล็กน้ัอย ทะยอยเติมน้ำตาลส่วนที่สอง ตีต่อด้วยความเร็วสูงจนได้ firm peak คือไข่ขาวเลยจุดตั้งยอดอ่อน เเต่ยังไม่ตั้งยอดเเข็ง (เมื่อตั้งยอดอ่อนตีต่ออีกเเป๊บนึง ก่อนตั้งยอดเเข็งค่ะ) ตีต่อด้วยความเร็วต่ำเพื่อตัดฟองอากาศหนึ่งนาที
เเบ่งส่วนผสมของไข่ขาวประมาณสามส่วน ค่อย ๆ ทะยอยใส่ในส่วนผสมของไข่เเดง ค่อย ๆ ตะล่อมอย่างเบามือ

Photobucket

อบที่ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-35 นาที วิธีเชคว่าเค้กสุกเเล้ว ก็เเค่เอานิ้วลองกด เนื้อเค้กจะสปริงตัวกลับค่ะ

ส่วนของชาไทยที่เอาไว้ราดหน้าเค้ก (สูตรจากคุณจุ๋ม เเม่สลิ่มค่ะ)
(ส่วนที่ 1)
ผงวุ้น 3/4 ช้อนชา วิธีการตวงคือ 1/2 ช้อนชา + 1/4 ช้อนชา
ผงชาไทยที่เหลือจากชงสำหรับทำตัวเค้กเมื่อกี้ และใส่เพิ่มไปอีก 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อนจัด 1 ถ้วยตวงของเหลว
นมสด 100 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
วิปปิ้งครีม 150 กรัม
(ส่วนที่ 2)
แป้งข้าวโพด 30 กรัม
นมข้นจืด 110 กรัม
(ส่วนที่ 3)
เนยสด (รสจืด) 100 กรัม

วิธีทำ
ต้มน้ำร้อนจัด 1 ถ้วยตวง แล้วเอาผงชาไทยที่เหลือจากการทำตัวเค้กเมื่อกี้ใส่ชามหรือภาชนะอะไรก็ได้ ตามด้วยผงชาไทยเพิ่มไปอีกประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำร้อนจัดลงไป ทิ้งให้ผงชาออกสีและกลิ่นจัด ๆ ชั่งให้ได้ 150 กรัม
เเหม่มตวงชาไทยใส่กะทะเทฟล่อนที่เอาไว้ทอดเลยค่ะ ตามด้วยส่วนผสมที่เหลือของส่วนที่ 1 นะคะ ผงวุ้น นมสด น้ำตาลทราย วิปปิ้งครีม คนรวมให้เข้ากัน
ส่วนที่ 2 ผสมนมข้นจืดและแป้งข้าวโพดให้เข้ากัน เเหม่มใส่ถุงพลาสติกเเล้วเขย่าให้เข้ากัน ผสมอย่าให้แป้งเป็นก้อน ตอนเเรกหานมข้นจืดไม่ได้ค่ะ เพราะไม่รู้ว่าหน้าตาของที่นี่เป็นอย่างไร สุดท้ายก็หาเจอจนได้วางขายใกล้ ๆ กับนมข้นหวาน ที่นี่นมข้นหวานเอามาจิ้มทานกับสตอเบอร์รี่ อร่อยดีค่ะ
เนยสดหั่นชิ้นเล็ก ๆ ไว้นะคะ
นำหม้อชาไทยและส่วนผสมที่เราเทรวมกันไว้ตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง ๆ ค่ะ คุณจุ๋มอธิบายเอาไว้ว่าผงวุ้นจะละลายได้ดีในน้ำเดือดจัดไฟแรง ไม่อย่างนั้นผงวุ้นละลายไม่หมดจะเห็นเป็นเกล็ด ๆ และมีผลต่อการเซ็ทตัวของหน้าขนม แต่หากใช้ไฟแรงไปเดี๋ยวจะไหม้เสียก่อน ใช้ไฟกลาง ๆ เเละใช้ตะกร้อมือคน ๆ ตลอดให้เดือดสักพัก อย่าเทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดลงไปขณะเดือดนะคะ (ไม่อย่างนั้นเเป้งสุกเป็นก้อนเเน่ค่ะ)
พอเดือดสักพัก ให้ลดไฟลง รอส่วนผสมอุ่น (ไม่ร้อนจนเดือด) จึงค่อยเทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดไว้ (เขย่าถุงอีกครั้งก่อนเท) แล้วคนให้เข้ากัน ค่อยเปิดไฟต่อ
ตอนนี้ให้ใช้ไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ ส่วนผสมจะเริ่มข้นขึ้น อย่าใช้ไฟแรงไม่อย่างนั้นไหม้เเน่นอนค่ะ
คนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมข้นหนืด เริ่มเห็นรอยตะกร้อมือในหม้อ ยกลงจากเตา ใส่เนยสดค่ะ
คน ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ส่วนผสมเย็นลง รอยตะกร้อมือจะชัดขึ้น ส่วนผสมจะข้นขึ้น ราดแล้วหน้าเค้กจะไม่ไหลเลอะเทอะ เวลาคนให้คนช้า ๆ เพื่อไม่ให้อากาศเข้ามาก หากคนเร็วอากาศจะเข้ามาก ทำให้หน้าเค้กมีฟองอากาศค่ะ (เทคนิคจากคุณจุ๋มค่ะ)

Photobucket 
ส่วนผสมเริ่มข้น เห็นรอยตะกร้อมือค่ะ

จากนั้นเตรียมตัวนำไปราดเค้กค่ะ สไลด์เค้กออกเป็นสามชั้นค่ะ วางเค้กลงบนแผ่นรองเค้ก และวางบนก้นถาดหรือภาชนะแบน ๆ อีกที ราดเค้กชั้นเเรกลงไปก่อน จากนั้นวางเค้กชั้นที่ 2 ลงไป ราดทับอีกครั้ง วางเค้กชั้นสุดท้ายลงไป ส่วนที่เหลือทั้งหมด ราดด้านบนและเอียงให้ไหลลงมาที่ขอบเค้กค่ะ กระแทกเบา ๆ อย่าเเรง เสร็จเเล้วก็เอาใส่ตู้เย็นทิ้งเอาไว้เพื่อให้เซทตัว

Photobucket
Photobucket

กว่าจะทำเค้กก้อนนี้เสร็จเล่นเอาเหงื่อตก เพราะว่าส่วนผสมเททิ้งเยอะมาก ๆๆๆๆ เนื่องจากอาการไร้สติจากที่บอกข้างต้น พอมาถึงตอนราดเค้ก เเหม่มทำได้เลอะเทอะมาก (แอบฮา) เค้กนี้เอาไปให้น้อง ๆ ที่เเลบลองชิม เพราะเด็ก ๆ บอกไม่เคยลองชาไทยมาก่อน คนชิมชมว่าอร่อยมาก คนทำก็ยิ้มเเก้มปริค่ะ สรุปเค้กนี้อร่อย หอมชาไทยมาก ๆ

orange short cake オレンジのショートケーキ

เกริ่นมามีภาษาญี่ปุ่นกำำักับซะด้วย เค้กนี้เป็นสูตรชอทเค้กสไตล์ญี่ปุ่นจากหนังสือ สปองค์เค้ก (スポンジケーキ book) ของคุณฟุคุดะ จุนโกะ เค้กชนิดนี้เป็นซับเค้ก หรือว่าเป็นเค้กลูกของสปองค์เค้กโดยปกติ เพราะวิธีทำจะไม่เหมือนสปองค์เค้กเเบบที่ทำโดยปกติ สำหรับสูตรการทำเค้กชนิดนี้ก็ใช้ส่วนผสมน้อยเหมือนเดิม ไม่ยุ่งยากค่ะ เเต่ว่าเค้กชนิดนี้ไม่มีสารเสริมใด ๆ เเม้เเต่ผงฟู เบคกิ้งโซดาก็ไม่ต้อง เค้กขึ้นฟูด้วยไข่ล้วน ๆ


สูตรสำหรับพิมพ์ 15 cm

ส่วนที่หนึ่ง

ไข่เเดง 2 ฟอง
น้ำตาล 30 กรัม
นมสด 2 ช้อนชา


ส่วนที่สอง

ไข่ขาว 2 ฟอง
น้ำตาล 30 กรัม


ส่วนของครีมเเต่งหน้าเค้ก

วิปปิ้งครีม 340 ml
น้ำตาลป่น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ


น้ำเชื่อม (น้ำส้ม) สำหรับทาหน้าเค้ก

น้ำส้มคั้น 55 ml
น้ำตาล 15 กรัม
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา

ส้มสดประมาณ 2 ลูกสำหรับตกเเต่ง



(เเยกไข่ตอนที่เพิ่งเอาออกจากตู้เย็นจะเเยกได้ง่ายค่ะ เเต่ต้องทิ้งเอาว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนตี) นำไข่เเดงเเละน้ำตาลในส่วนผสมที่หนึ่งมาตีผสมให้ไข่เเดงขึ้นฟู เเล้วเติมนมสด คนผสมให้เข้ากันค่ะ พักเอาไว้ก่อน

Photobucket


ตีไข่ขาวเป็นฟองละเอียด ค่อย ๆ ทะยอยเติมน้ำตาลจนหมด เเล้วตีต่อจนตั้งยอดค่ะ วิธีเชคตามหนังสือ คือ ให้ดึงหัวตีขึ้นมาจากส่วนผสม เเล้วสามารถตั้งยอดคงตัวอยู่ได้ค่ะ


Photobucket


เเบ่งส่วนผสมของไข่ขาวออกประมาณสามส่วน ค่อย ๆ ทะยอยผสมในส่วนผสมไข่เเดง ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือ เมื่อส่่วนผสมเข้ากันเเล้วเเบ่งเเป้งออกเป็นสองส่วน ทะยอยร่อนลงในส่วนผสมของไข่ เเล้วผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ


Photobucket


เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีเเล้ว เติมส่วนของเนยละลายอุ่น ๆ (เนยละลายอุ่น ๆ ทำให้เข้ากันกับส่วนผสมได้ดีค่ะ) คนผสมให้เข้ากัน

Photobucket


นำส่วนผสมเข้าอบที่ 170 องศาเซลเซียส เวลาประมาณ 20-25 นาที รองพิมพ์ด้วยกระดาษไข ก่อนอบกระเเทกพิมพ์กับพื้นโต๊ะเบา ๆ (ยกสูงจากพื้นประมาณ 15-20 cm) หนึ่งครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ


วิธีเเต่งหน้าเค้กก็ตามสไตล์เลยค่ะ เเต่ว่าเค้กชนิดนี้หน้าเค้กจะเเห้งต้องทาหน้าเค้กด้วยน้ำเชื่อม วิธีทำน้ำเชื่อมก็เอาน้ำส้มคั้นกับน้ำตาล ตั้งไฟอ่อน ๆ ค่อย ๆ คนให้น้ำตาลละลาย พอน้ำตาลละลายหมด ยกลงจากเตา พอส่วนผสมอุ่น ๆ เติมน้ำมะนาวค่ะ


สำหรับวิธีตัดเเต่งส้ม


ส้มที่ใช้วันนี้นำเข้าจากอเมริกาด้วยนะเนี่ย ราคาถูกกว่าส้มของญี่ปุ่นอีกต่างหาก ตัดหัวท้ายส้มก่อนเเล้วค่อยปอกเปลือกส้มออก ลอกใยขาว ๆ ของส้มออกด้วยนะคะ จากนั้นค่อย ๆ ลอกส้มออกมาเป็นกลีบ ๆ

Photobucket


เเหม่มก็เเต่งตามปกติ เเบ่งเค้กออกเป็นสองส่วน ทาน้ำเชื่อมที่หน้าเค้ก โปะวิปครีม วางส้ม เเล้วโปะวิปครีมอีกชั้น จากนั้นก็เอาเค้กส่วนบนวางทับ โปะวิปครีมรอบตัวเค้ก อันนี้ก็ตามสไตล์อยากเเต่งเเบบไหนจัดไปเลยยยยยย

Photobucket



ตอนเเรกวาดภาพเค้กออกมาเป็นอีกเเบบ หัวบีบที่อยากได้หาไม่เจอ เอ๊ะ หรือว่าไม่มี สุดท้ายเลยออกมาเป็นเเบบนี้